เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่หน้าห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม. นายณัฐพงศ์ ดิษยบุตร รองปลัด กทม. ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการติดตามการต่อต้านการทุจริตของกรุงเทพมหานคร (ศตท.กทม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายว่า ความคืบหน้าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กรณีการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย พบมีมูลที่ส่อการทุจริตและมีประเด็นที่มีข้อบกพร่องหลายประเด็น ซึ่งอาจผิดกฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (พ.ร.บ.ฮั้ว) จึงรวบรวมหลักฐานทั้งหมดส่งให้สำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการทุจริตประพฤติมิชอบต่อไป ในส่วนของ กทม.ได้นำข้อมูลเสนอให้ปลัด กทม.พิจารณาตั้งกรรมการสอบสวน ให้ได้ข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการทางวินัยและส่งดำเนินคดีอาญาต่อไป

เปิดภาพลู่วิ่งไฟฟ้า 7.5 แสน ศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ รับมอบต้นเดือนกุมภาพันธ์ 67

ส่วนสัปดาห์นี้จะมีการขยายผล โครงการการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายทั้งหมด ตั้งแต่ปี 66-67 ว่ามีข้อบกพร่องหรือประเด็นสำคัญอะไรบ้าง โดยตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีข้อสงสัยหรือพฤติกรรมเบื้องต้นที่เข้าข่ายทุจริต จะส่งสำนักงาน ป.ป.ช. เพิ่มเติม ส่วนในเชิงรุก การของบประมาณปี 2568 ทางสำนักงานตรวจสอบภายในจะเสนอผู้ว่าฯ กทม.ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบราคาของรายการหรือโครงการที่จะเสนอของบประมาณในปี 68 ทั้งหมด

ขณะที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเสริมว่า ส่วนการดำเนินการในภาพรวม ขณะนี้ได้สั่งการ 3 คำสั่ง คือ 1. ให้ปลัด กทม.กำกับดูแลเรื่องกรณีเครื่องออกกำลังกายอย่างเข้มข้น และให้เสนอรายงานความคืบหน้าเข้ามาทุกสัปดาห์ 2. ให้ปลัด กทม. ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายข้าราชการประจำ ดำเนินการตรวจสอบเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างทุกหน่วยงานให้โปร่งใส เป็นไปตามระเบียบ ชี้แจงกับสังคมได้ในทุกรายการ โดยให้สรุปผลรายงานเข้ามาทุกเดือนแจ้งให้ฝ่ายบริหารทราบ และ 3. สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำราคากลางที่เป็นมาตรฐาน เพื่อให้ได้ราคากลางและรายละเอียดของอุปกรณ์ที่เหมาะสมในการจัดซื้อ โดยเรื่องนี้น่าจะเป็นตัวอย่างให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในจุดอื่นของประเทศ ทำให้ลดการใช้วิจารณญาณและมีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน.