เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีการเผยแพร่ภาพนายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย ทำให้สังคมตั้งข้อสังเกตว่า ภาพเหล่านั้นถ่ายที่ประเทศไทยหรือไม่ เนื่องจากนายวัฒนา ตกเป็นจำเลยคดีคลองด่าน และถูกออกหมายจับมารับโทษตามคำพิพากษานั้น

แชร์ว่อน! ‘วัฒนา อัศวเหม’ โผล่อวยพร ‘สุนทร’ ชิงอบจ.ปากน้ำ หลังหนีคดีจนขาดอายุความ

เบื้องต้นมีรายงานว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพคณะว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. และ ส.จ. รวมทั้งกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า ตลอดจนบุคคลที่มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับนายวัฒนา ที่ได้เดินทางไปขอพรรับโอวาทที่บ้านพักนายวัฒนาที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งในทางการเมืองคาดการณ์ว่า การที่นายวัฒนาปรากฏตัวในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการปลุกขวัญและกำลังใจให้กับผู้สมัคร

ขณะที่อีกส่วนนึงเพื่อเป็นการเรียกคะแนนเสียงให้กับกลุ่มของนายวัฒนา เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่ผ่านมาจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญของกลุ่มบ้านอัศวเหม มีคะแนนเสียงน้อยกว่าที่คาดไว้และแพ้การเลือกตั้งให้กับพรรคก้าวไกลทั้งจังหวัด

อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากหน่วยงานความมั่นคง เปิดเผยว่า กรณีของนายวัฒนานั้นเป็นบุคคลซึ่งมีหมายจับ หากมีการเดินทางเข้าออกประเทศระบบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.)จะมีการแจ้งเตือนทันที อีกทั้งเชื่อว่าไม่มีความจำเป็นที่นายวัฒนาจะเดินทางเข้าในประเทศไทยในช่วงเวลานี้ เนื่องจากว่าได้กบดานอยู่ที่ต่างประเทศเป็นเวลาหลายปี อีกทั้งในระยะเวลาอันใกล้คดีจะหมดอายุความ

สำหรับนายวัฒนา เป็นจำเลยต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ คดีหมายเลขดำที่ อม. 2/2550 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 2/2551 โดยองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯมีมติเสียงข้างมากว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งรมช.มหาดไทย ได้ใช้อำนาจในฐานะเจ้าพนักงานในตำแหน่งนั้นโดยมิชอบ ข่มขืนใจ หรือจูงใจ ให้เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองและเจ้าพนักงาน ที่ดินจ.สมุทรปราการ สาขาบางพลี ออกโฉนดที่ดินที่พิพาทให้แก่จำเลยในนามของบริษัท ปาล์มบีซ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด โดยมิชอบ

จึงพิพากษาให้จำเลย มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา148 ลงโทษจำคุก 10 ปี และริบพระเครื่องผงสุพรรณเลี่ยมทองคำ จำนวน 1 องค์ เมื่อวันที่ 18 ส.ค.2551 อายุความ 15 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา

และเมื่อวันที่ 30 พ.ค.2561 ที่ศาลแขวงดุสิต ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำที่ 254/2547 เป็นครั้งที่ 2 กรณีที่กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายวัฒนา กับพวกรวม 19 คน ในความผิดฐานฉ้อโกงซื้อที่ดิน และสัญญาโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย อ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ โดยนายวัฒนา เป็นจำเลยที่ 19 พิพากษาให้จำคุก 3 ปี คดีนี้มีอายุความ 10 ปี และจะหมดอายุความในปี 2571

สำหรับการนับอายุความในคดีอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 98 ระบุว่า เมื่อได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษผู้ใด ผู้นั้นยังมิได้รับโทษก็ดี ได้รับโทษแต่ยังไม่ครบถ้วนโดยหลบหนีก็ดี ถ้ายังมิได้ตัวผู้นั้นมาเพื่อรับโทษนับแต่วันที่มีคำพิพากษาถึงที่สุด หรือนับแต่วันที่ผู้กระทำความผิดหลบหนี แล้วแต่กรณี เกินกำหนดเวลาดังต่อไปนี้ เป็นอันล่วงเลยการลงโทษ จะลงโทษผู้นั้นมิได้
(1) ยี่สิบปี สำหรับโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกยี่สิบปี
(2) สิบห้าปี สำหรับโทษจำคุกกว่าเจ็ดปีแต่ยังไม่ถึงยี่สิบปี
(3) สิบปี สำหรับโทษจำคุกกว่าหนึ่งปีถึงเจ็ดปี
(4) ห้าปี สำหรับโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีลงมาหรือโทษอย่างอื่น.