จากกรณี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุรชัย จงจิตงาม คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุถึงวัดอุโมงค์สวนพุทธธรรม จ.เชียงใหม่ ได้มีการซ่อมแซมประติมากรรมปูนปั้นภาพยักษ์ขนาดใหญ่สูงราว 2 เมตร ในศิลปะล้านนา ด้วยการปั้นพอกจนกลายเป็นของใหม่

ต่อมาทาง พระครูสมุห์บุญเลิศ ชยวโส เจ้าอาวาส และพระพีระ พระลูกวัดที่รับหน้าที่เฝ้าดูการบูรณะยักษ์ทั้งสองตน ได้ชี้แจงว่าเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อราวๆ ต้นปี 67 ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้มาเที่ยวชมวัดแห่งนี้ และเกิดศรัทธาและเห็นยักษ์ทั้งสององค์ชำรุด จึงประสานให้กรมศิลปากร เข้ามาดำเนินการซ่อมแซมบูรณะ แล้วเสร็จได้หลายเดือนแล้ว ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

เจ้าอาวาสชี้งานซ่อมรูปปั้นยักษ์ 400 ปี ‘กรมศิลป์’ เป็นคนทำ วัดไม่เกี่ยวได้แต่ยืนดู

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 มิ.ย. นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยในเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เมื่อราวๆ ต้นเดือน เม.ย. ปีที่แล้ว ตนได้มีโอกาสไปไหว้พระที่วัดอุโมงค์ และเดินเที่ยวชมความสวยงามของวัด โบราณสถานภายในวัด แล้วพบเห็นรูปปั้นยักษ์สองตน ซึ่งมีสภาพแขนขาดทรุดโทรม และพบเห็นนักท่องเที่ยววิพากษ์วิจารณ์กันว่า ทำไมไม่มีคนดูรักษาซ่อมแซม ตนจึงได้ประสานไปยังกรมศิลปากร ซึ่งเป็นหน้างานโดยตรง มีความรู้และเชี่ยวชาญด้านโบราณสถานโบราณวัตถุ ซึ่งหลังแจ้งไปแล้ว ตนก็ไม่ได้ติดตามรายละเอียด เพราะเชื่อมั่นในการดำเนินการของกรมศิลป์ จนมาเป็นข่าว ซึ่งตนก็มั่นใจว่ากรมศิลป์ทำงานถูกต้องที่สุดแล้ว เพราะจากแบบก็ทราบว่าทำออกมาเหมือนของเก่าไม่ผิดเพี้ยน เพียงแต่สภาพดูใหม่

ด้าน ผศ.ดร.สุรชัย จงจิตงาม อาจารย์ประจำสาขาวิชาศิลปะไทย คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ตนขอไม่ตัดสินว่าใครผิดใครถูก การบูรณะเป็นเรื่องดี แต่ที่เกิดขึ้นตนว่าไม่เหมาะ กรมศิลป์บูรณะเสร็จแล้วก็ไม่ผิดแค่ไม่เหมาะ เพราะจากมุมมองตน กฎระเบียบการซ่อมบูรณะของโบราณมีหลากหลายรูปแบบ ต้องดูระเบียบการซ่อมเรื่องนี้ แต่ผลที่ออกมาหรือการพอกปูนทับของเดิม ทำให้ไม่เหลือสภาพของโบราณ ตนว่ามันไม่เหมาะไม่ควร.