เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 มิ.ย. 67 ที่พรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  สส.บัญชีรายชื่อ  ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงกรณีการต่อสู้คดีล้มล้างการปกครอง ซึ่งอาจมีโทษถึงขั้นยุบพรรคก้าวไกล โดยมี 9 ข้อต่อสู้คดียุบพรรคก้าวไกล แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่หนึ่ง เขตอำนาจและกระบวนการ (Jurisdiction & Process) 1. ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีเขตอำนาจพิจารณาวินิจฉัยคดีนี้ 2. กระบวนการยื่นคำร้องของ กกต. “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” ส่วนที่สอง ข้อเท็จจริง (Facts) 3. คำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา ไม่ผูกพันกับการวินิจฉัยคดีนี้ 4. การกระทำที่ถูกกล่าวหา ไม่ล้มล้าง ไม่อาจเป็นปฏิปักษ์ 5. การกระทำตามคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 67 ที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นมติพรรค  ส่วนที่สาม สัดส่วนโทษ (Penalty) 6. โทษยุบพรรคต้องเป็นมาตรการสุดท้ายเมื่อจำเป็น ฉุกเฉิน ฉับพลัน และไม่มีวิธีแก้ไขอื่น 7. ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีอำนาจตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค  8. จำนวนปีในการตัดสิทธิทางการเมือง ต้องได้สัดส่วนกับความผิด และ 9. การพิจารณาโทษ ต้องสอดคล้องกับชุดกรรมการบริหารพรรคในช่วงที่ถูกกล่าวหา  

นายพิธา กล่าวถึง การตั้งพรรคสำรองว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ขณะนี้พรรคก้าวไกล กำลังเรียงลำดับความสำคัญในการใช้ 9 ข้อ  ต่อสู้ยุบพรรคก้าวไกล การต่อสู้คดี การใช้ข้อกฎหมายให้แม่น การเปรียบเทียบคดีต่างๆ ในประเทศไทย และในต่างประเทศ เพื่อชี้ให้เห็นว่ากระบวนการ กกต. มีความบกพร่องขัดกับตัวบท กกต. เอง ทำให้สารตั้งต้นของคดีนี้ไม่มีความชอบด้วยกฎหมาย 

เมื่อถามย้ำว่า ยังไม่มีการตั้งพรรคสำรองใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวยืนยันว่า ยังไม่ถึงเวลา.