สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ว่าประธานาธิบดีกุสตาโว เปโตร ผู้นำโคลอมเบีย กล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานทุกแห่งที่เกี่ยวข้อง ระงับการส่งออกถ่านหินไปยังอิสราเอล จนกว่าอีกฝ่ายจะยุติ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ในฉนวนกาซา


มาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ภายในระยะเวลา 5 วัน หลังมีการประกาศลงในรัฐกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ ระหว่างเดือนม.ค.-ส.ค. ปีที่แล้ว มูลค่าการส่งออกถ่านหินจากโคลอมเบียไปยังอิสราเอล อยู่ที่ 375 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 13,794.38 ล้านบาท ) และถ่านหินถือเป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญ ของการผลิตอาวุธสงคราม


ขณะที่ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา โคลอมเบียยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล อย่างไรก็ดี ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับโคลอมเบียตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่สงครามในฉนวนกาซาปะทุ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 อิสราเอลประกาศระงับ “การส่งออกที่เกี่ยวกับความมั่นคง” ให้แก่โคลอมเบีย เพื่อประท้วงกรณีเปโตรวิจารณ์ นายโยอาฟ กัลลันต์ รมว.กระทรวงกลาโหมอิสราเอล ว่าพูดถึงชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา “แบบเดียวกับที่นาซีพูดถึงชาวยิว”


หลังจากนั้น รัฐบาลโบโกตาตอบโต้ทางการทูต ด้วยการให้อิสราเอลเรียกตัวเอกอัครราชทูตประจำโคลอมเบียกลับ ตามด้วยการระงับซื้ออาวุธของอิสราเอล หลังเกิดเหตุชาวปาเลสไตน์จำนวนมากเสียชีวิต ระหว่างการรอรับอาหารจากขบวนรถบรรเทาทุกข์ ในฉนวนกาซา เมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : AFP