เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.67 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมคณะเดินทางมาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เพื่อมอบนโยบายแนวทางการ “แก้ไขปัญหากองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.)หนี้นอกระบบ และการแก้ไขปัญหายาเสพติด
ในสถาบันการศึกษา” แก่นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด จำนวน 1,500 คน โดยมีนายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.ร้อยเอ็ด นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด นายนรากร นาเมืองรักษ์-นายนิคม บุญวิเศษ สส.พรรคเพื่อไทย ร่วมให้การต้อนรับ

พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า สิ่งที่มีความสำคัญมาก เรื่องแรก คือ หนี้สินทางการศึกษา หรือหนี้กยศ.ที่เกิดขึ้นกับเด็ก และหนี้สินของครู เรื่องที่ 2 คือ การแก้ไข่ปัญหายาเสพติด สถานที่ที่เรามาพูดคุยกันในวันนี้และบุคคลที่เรามาพบปะ คืออนาคตของชาติที่มีความสำคัญมากเพราะการศึกษาเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญ คุณภาพของประเทศ โดยปัจจุบันมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับหนี้กยศ.ฉบับใหม่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ลูกหนี้มากขึ้น

ที่ผ่านมา การชดใช้ของลูกหนี้ไปมากมายเพียงใดก็ยังไม่มีอนาคต เพราะเงินที่จ่าย ไปไม่ถึงเงินต้น จึงมีการเปลี่ยนหลักการ จากที่เคยคิดดอกเบี้ย 7.5% และเบี้ยปรับ 18% กับลูกหนึ้ที่ไม่มีงานทำ ไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ ไม่สามารถหาเงินไปจ่ายหนึ้เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งการชดใช้หนี้ จะมีการนำเงินที่จ่ายไปชดใข้เบี้ยปรับ นำไปชดใช้ดอกเบี้ย ก่อนจะนำไปชดใช้เงินต้น ทำให้การใช้หนี้ของน้องๆ จึงไม่มีวันจบสิ้น

หลักการของการศึกษา คนมีการศึกษาได้จะถือว่าประเทศมีกำไร แต่เมื่อพวกเขายังมีหนี้สินไม่สามารถใช้หนี้ได้ เกิดเป็นภาระ เป็นความทุกข์ที่ค่อนข้างมาก เพราะเรามีลูกหนี้ กยศ.กว่า 7 ล้านราย รวมถึงผู้ค้ำที่จะสร้างอันตราย คือเมื่อมีการฟ้องร้อง จะมีการยึดทรัพย์ขายทอดตลาด เอาบ้านเรือนของผู้ค้ำประกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือพ่อแม่ของลูกหนี้ แต่ปัจจุบันมีการแก้ไขกฎหมาย มีการเปลี่ยนแปลงหลักการการชดใช้หนี้ที่จะนำไปชดใช้เงินต้น ชดใช้เบี้ยปรับที่คิดในอัตราไม่เกิน 0.5% รวมถึงดอกเบี้ยที่ไม่เกิน 1% เกิดความเป็นธรรมกับลูกหนี้มากขึ้น

วันนี้จึงจะมาชี้แจงกับน้องๆ เพราะเท่าที่ทราบ ที่นี่ประมาณ 80% กู้เงินจากกยศ. พร้อมการทำให้ประชาชนตื่นรู้ เข้าใจ ว่าการแก้ไขปัญหาต้องใช้ความยุติธรรม อีกส่วนหนึ่ง คือ หนี้ครู คือการทำให้ครูควรมีเงินเหลือประมาณ 30% ของรายได้ เรื่องทั้งหมดนี้ หากได้รับการแก้ไขจะถือเป็นการปลดปล่อยของคน บทความทุกข์ไปได้

รมว.ยุติธรรม กล่าวด้วยว่า ปัญหาอีกประการหนึ่งคือยาเสพติด ที่จ.ร้อยเอ็ด มีปัญหายาเสพติดอันดับที่ 27 จาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ ที่มีการระบาดจากชายแดน บริเวณฝั่งแม่น้ำโขง แถบจ.บึงกาฬ ก่อนกระจายเข้ามาในพื้นที่ภาคอีสาน ต่างจากยาเสพติดที่มาจากชายแดนภาคเหนือจะมีปลายทางที่ ภาคกลาง ภาคใต้ แต่ทั้งหมดจะส่งผลกระทบกระทบต่อคุณภาพของคนอ่อนแอลง วันนี้จึงมาทำความเข้าใจว่าเราต้องร่วมกันต่อต้าน ปฏิเสธยาเสพติด ที่จะทำให้เกิดโรคร้ายสร้างปัญหากับสมอง เป็นการทำลายอนาคตของชาติ

นอกจากนี้ รมว.ยุติธรรม ได้ตรวจเยี่ยมเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายอภินันท์ ศรียอดแก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด และคณะเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ ต่อด้วยการเดินทางมาเป็นประธานเปิดงานประเพณี บุญบั้งไฟ บ้านนากระตึบ-บ้านนาเจริญ ต.ท่าม่วง อ.เสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ท่ามกลางประชาชนมาร่วมงานกว่า 2,000 คน