เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร. และผู้ที่เกี่ยวข้อง ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานกิจกรรมตรวจสุขภาพคนไร้บ้านและคนจนเมืองตามนโยบายตรวจสุขภาพ 1 ล้านคน กรุงเทพมหานคร Bangkok Homeless Health Fair

โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ, สำนักการแพทย์, สำนักอนามัย, ศูนย์บริการสาธารณสุข (ศบส.), คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช, โรงพยาบาลกลาง, มูลนิธิกระจกเงา และเครือข่ายภาคประชาสังคม

นายชัชชาติ กล่าวว่า กทม.มีความพยายามอย่างจริงจังในการดูแลปัญหาคนไร้บ้าน โดยเริ่มต้นจากให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพ เพราะหากคนไร้บ้านมีสุขภาพที่ดีแล้ว จะลดภาระค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล ลดการพึ่งพาคนอื่นได้ โดยรวมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม ในการตรวจสุขภาพ ตรวจสอบสิทธิการรักษา การทำบัตรประชาชน ทำให้แก้ปัญหาเรื่องการไม่ได้รับสิทธิสวัสดิการของรัฐได้

“รมช.เกรียง ก็อยากให้มีจุดรวบรวมความช่วยเหลือในลักษณะ One Stop Service ในการหางาน หรือการตรวจสอบสิทธิ โดย กทม.อยู่ระหว่างการปรับปรุงศูนย์บ้านอิ่มใจ ที่การประปาแม้นศรี เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เพื่อเป็นสถานพักฟื้นทั้งทางร่างกาย และจิตใจให้กับคนไร้บ้าน สามารถก้าวเดินต่อไปได้” นายชัชชาติกล่าว

ด้าน น.ส.ทวิดา กล่าวว่า กทม.พยามจัดระบบดูแลคนไร้บ้าน หนึ่งในนั้นคือการตรวจสุขภาพ โดยมีการร่วมมือกับภาคประชาสังคม เพื่อให้รวบรวมคนไร้บ้านมาตรวจสุขภาพ ซึ่งให้มีการอดน้ำอดอาหารมาก่อนการเจาะเลือด เพื่อให้รู้ผลสุขภาพในเชิงลึกลึกมากขึ้น คาดว่าจะมีคนในบ้านมาตรวจสุขภาพกว่า 300 คน หากพบว่ามีสัญญาณอาการการป่วยหนัก ก็สามารถเข้าส่งตัวรักษาได้ทันที

น.ส.ทวิดา กล่าวต่อไปว่า ส่วนข้อมูลผลตรวจสุขภาพทาง กทม.สามารถให้กับคนไร้บ้านรายบุคคลได้ และลงในระบบ Care Manager ที่เครือข่ายมูลนิธิเป็นผู้ดูแล และเจ้าหน้าที่ ศบส.โดยให้คนไร้บ้านเป็นผู้ยินยอมเปิดเผยข้อมูล ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สามารถวิเคราะห์และวางแผนต่อไปได้ รวมถึงการคัดกรองให้คนไร้บ้านเข้าอยู่ศูนย์บ้านอิ่มใจ เพื่อให้มีที่พักอาศัยมีอาชีพ ทำให้กลับมามีชีวิตเหมือนมนุษย์คนหนึ่งที่มีศักดิ์ศรี

“กิจกรรมในวันนี้เป็นการสุขภาพแบบครบวงจร เช่น ตรวจเลือด เอกซเรย์ปอด บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ การให้คำปรึกษาเรื่องโรคร้ายแรง ซึ่งถ้าตรวจพบก็จะส่งตรงไปยังโรงพยาบาลได้ในทันที นอกจากนี้ยังมีจุดบริการด้านการย้ายสิทธิการรักษา จุดทำบัตรประชาชน และการบริการอาหารและน้ำดื่ม” น.ส.ทวิดา กล่าว