จากกรณีที่ ตำรวจควบคุมตัว “ส.ต.อ” อายุ 34 ปี สังกัดโรงพักพื้นที่ จ.ขอนแก่น ที่ก่อเหตุใช้พกประจำกายขนาด 9 มม. ยิงหัวหนุ่มชาวเมียนมาวัย 29 ปี เสียชีวิตคาเตียงคนไข้ รพ.ขอนแก่น ไปสอบสวน โดยเบื้องต้นอ้างว่า ไม่พอใจคิดว่าอีกฝ่ายหาเรื่องพ่อของตัวเอง ขณะนอนรักษาอาการป่วยโรคหัวใจใกล้ ๆ เลยลงมือยิงอีกฝ่าย ซึ่งตอนนั้นทำไปโดยไม่รู้ตัว จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ป่วยเป็นโรคประสาท ยังอยู่ในระหว่างการรักษา แต่กลับไม่กินยาอย่างต่อนเนื่อง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เปิดปาก ‘ส.ต.อ.’ มือยิงพม่าดับคารพ. อ้างทำไปโดยไม่รู้ตัว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องหาถึง สภ.เมืองขอนแก่น ได้ทำการตรวจปัสสาวะของผู้ต้องหา เพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย ปรากฏว่าเป็นสีม่วง เท่ากับว่าผู้ต้องหามีการเสพยาเสพติด แต่เพื่อความเป็นธรรมกับผู้ต้องหา จะได้มีการส่งตัวไปที่ รพ.ขอนแก่น ให้แพทย์ทำการตรวจซ้ำว่า ปัสสาวะสีม่วงที่ตรวจพบในเบื้องต้นนั้นเป็นสารเสพติดจริงหรือไม่ รวมทั้งหากเป็นสารเสพติดที่มาจากการเสพยาบ้า ก็จะทำการสอบสวนขยายผลหาที่มาของยาเสพติดว่า ผู้ต้องหามีการติดต่อซื้อยาเสพติดจากผู้ใดมาเสพ และจะทำการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

“ผู้ต้องหายังพูดย้ำคำเดิมว่า ยิงจริง แต่ไม่รู้ยิงทำไม และไม่รู้จักกับคนตายมาก่อน ซึ่งอาจสันนิษฐานได้ว่ามาจากอาการที่เกิดจากการเสพยาเสพติหรือไม่ ซึ่งจะต้องให้แพทย์ทำการตรวจร่างกายของผู้ต้องหาก่อนจึงจะสรุปได้” ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าว

ขณะที่ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติ ผอ.รพ.ขอนแก่น กล่าวว่า ยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเต็มที่ เพื่อคลี่คลายคดีที่เกิดขึ้น ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาอ้างว่า รู้สึกเหมือนผู้ตายไปก่อกวนพ่อของตัวเองที่มารับการรักษาในอาคารเดียวกันจนตัดสินใจก่อเหตุนั้น จากการตรวจสอบพบว่าบิดาของผู้ต้องหา ได้เข้ามารับการรักษาที่อาคารศัลยกรรมระบบปัสสาวะ ชั้น 5 อาคาร 6 รพ.ขอนแก่น จริง โดยเข้ารับการรักษาเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. และพักรักษาตัวอยู่ที่เตียง 28 ติดกำแพงฝั่งระเบียงด้านหลัง ขณะที่หนุ่มเมียนมา เดินทางมารักษาตัวเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่อาคาร 5 ชั้น 5 ก่อนจะย้ายมาที่ อาคาร 6 ชั้น 5 เตียง 26 ซึ่งเป็นเตียงที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากเตียงของพ่อมือปืนถัดมาอีก 2 เตียง

“จากข้อมูลของพยาบาลที่ดูแลในห้องที่ผู้ป่วยทั้ง 2 อยู่นั้นพบว่า เหตุการณ์เป็นไปอย่างปกติ แรงงานหนุ่มเมียนมา จิตใจดี ช่วยญาติผู้ป่วยคนอื่น ๆ ยกของ และไม่ได้มีปากเสียงกับใครแต่อย่างใด จนกระทั่งมือปืนเข้ามาในโรงพยาบาลแล้วขึ้นมาหาพ่อ ก่อนจะลงไปซื้อน้ำดื่ม 3 ขวด ที่ร้านค้าสวัสดิการของโรงพยาบาล ในเวลา 21.13 น. และหายไปประมาณ 1 ชม. ก่อนจะปรากฏในกล้องวงจรปิด มาก่อเหตุดังกล่าวขึ้นในเวลาประมาณ 22.30 น. โดยอ้อมเข้ามาทางด้านหลังระเบียง ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปทันที ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากสาเหตุอื่น ที่ไม่ได้เกิดจากผู้ตายแต่อย่างใด” ผอ.รพ.ขอนแก่น กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากที่ “ส.ต.อ.” เข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว ทาง พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ได้มีคำสั่งให้ “ส.ต.อ.” รายนี้ออกราชการไว้ก่อน.