เมื่อพ.ค.ที่ผ่านมา ทีมวิจัยศึกษาของ เจสัน โจนส์, อลิเซีย บัค, เจฟฟรีย์ อดัมส์ และ แอนโทนี เมเยอร์  ได้เผยแพร่ผลการรักษาที่น่าสนใจของคนไข้รายหนึ่งซึ่งมีอาการลำไส้เลื่อนหลุดออกจากร่างกายในวารสาร American Journal of Medical Case Reports

คนไข้รายนี้มีอายุ 63 ปี เขารู้ตัวว่าลำไส้ตัวเองเลื่อนหลุดออกนอกร่างในระหว่างที่กำลังนั่งรับประทานอาหารเช้ากับภรรยา

ก่อนหน้านั้นราว 15 วัน เขาเพิ่งจะเข้ารับการผ่าตัดกระเพาะปัสสาวะมา ซึ่งใช้การเย็บแผลด้วยลวดเย็บแผลเอาไว้ชั่วคราว จนกว่าแผลจะหายดี

ในวันนั้นลำไส้หลุดนั้น เขาเพิ่งไปพบแพทย์ที่คลินิกระบบทางเดินปัสสาวะ เพื่อนำลวดเย็บแผลออก ซึ่งทุกอย่างก็ดูเป็นปกติดี สุขภาพของเขาฟื้นตัวจนแข็งแรง

หลังจากพบแพทย์แล้ว ชายสูงอายุจึงออกไปฉลองข่าวดีด้วยการรับประทานอาหารเช้ากับภรรยา แต่แล้วระหว่างมื้ออาหาร เขาก็จามอย่างแรง ตามด้วยอาการไอ จากนั้นเขาก็รู้สึกว่าช่องท้องด้านล่างของเขาเจ็บมากและเปียกชื้น

เมื่อก้มลงมอง ชายสูงอายุก็เห็น “ลำไส้สีชมพูเป็นขด ๆ โผล่ออกมาจากแผลผ่าตัดหมาดๆ” ของเขา หรือพูดง่าย ๆ ว่าไส้ไหลออกมานอกร่างกายจากช่องแผลผ่าตัด

ชายสูงอายุไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีที่ตัวเองจามแรงเกินไปจนไส้หลุดออกมานอกร่าง ปฏิกิริยาแรกสุดของเขาก็คือรีบดึงเสื้อลงมาปิดไส้ที่ทะลักออกมาเอาไว้ก่อน

ชายสูงอายุคิดว่าเขาจะค่อย ๆ ประคองไส้ตัวเองเอาไว้แล้วขับรถไปหาหมอที่โรงพยาบาล แต่ภรรยาของเขามีสติรอบคอบกว่า เธอรีบเรียกรถพยาบาลมาทันที พร้อมกับแจ้งสถานการณ์ไปว่าลำไส้ของสามีของเธอได้หลุดออกมาข้างนอกช่องท้อง

เมื่อคนไข้ถึงมือทีมแพทย์ พวกเขาก็พบว่าช่องท้องของคนไข้สูงวัยผู้นี้มีรอยฉีกขาดราว 3 นิ้ว ทำให้ลำไส้หลุดออกมานอกร่างได้ยาวมาก ทีมพยาบาลฉุกเฉินได้พยายามรักษาความชุ่มชื้นของลำไส้ที่หลุดออกมาไว้ และรีบนำตัวคนไข้สูงวัยเข้ารับการผ่าตัดในโรงพยาบาล เพื่อนำลำไส้ใส่กลับเข้าไปในช่องท้องตามเดิม

ชายสูงวัยโชคดีมากที่ผ่านกระบวนการผ่าตัดได้อย่างปลอดภัย และไม่มีอาการบาดเจ็บใด ๆ จากการที่ลำไส้หลุดออกมาจากช่องท้อง หลังจากพักฟื้นที่โรงพยาบาลเพียง 6 วัน เขาก็กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้

ที่มา : ladbible.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, pubs.sciepub.com