ที่สยามพารากอน วันที่ 8 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานเปิดกิจกรรมวันทะเลโลก ประจำปี พ.ศ. 2567 ที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ปลุกกระแส แก้วิกฤตมหาสมุทร” สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนชาวไทยทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของท้องทะเล ณ Sea Life Bangkok โดยมี ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และคณะผู้บริหารระดับสูง ผู้นำองค์กร ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชุมชนชายฝั่ง อาสาสมัครพิทักษ์ทะเลเข้าร่วมงาน

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรฯ กล่าวว่า วันทะเลโลกปีนี้ ทั่วโลกได้ร่วมกันจัดกิจกรรมในการดูแลรักษาทะเลและมหาสมุทรอย่างพร้อมเพรียง เพื่อกระตุ้นเตือนถึงสถานการณ์ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น ส่งผลต่อทะเลและมหาสมุทรทั่วโลก ซึ่งนับว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีผลกระทบกับทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งเป็นอย่างมาก ในฐานะผู้นำองค์กรได้กำกับดูแลภารกิจด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ทรัพยากรทางทะเล และป่าชายเลน อย่างใกล้ชิด พร้อมผลักดันมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู รวมถึงปกป้องทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

“วันนี้อยากขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เป็นพลังสำคัญของประเทศ ให้นำเอาวันทะเลโลกเป็นจุดเริ่มต้นอีกวันหนึ่งที่จะร่วมกันอนุรักษ์และดูแลท้องทะเลไทย พร้อมปลูกฝังให้เยาวชนรุ่นต่อ ๆ ไป ได้รู้จักคุณค่าและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ จะทำให้ทะเลของบ้านเรามีความสวยงามและมีสิ่งแวดล้อมที่ดีตลอดไป” พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าว  

ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีทช. กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ทะเลทั่วโลกเผชิญกับวิกฤตหนักที่สุด เนื่องจากสภาวะโลกร้อนที่ส่งผลให้อุณหภูมิของน้ำในทะเลและมหาสมุทรสูงขึ้นอย่างผิดปกติในรอบ 40 ปี หรือที่เรียกว่าทะเลเดือด กำลังส่งผลกระทบกับสรรพสิ่งในทะเล และจะกระทบต่อมนุษยชาติในปัจจุบันและอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ภาวะทะเลเดือดนี้ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อทรัพยากรปะการังและแหล่งหญ้าทะเลทั่วโลก ซึ่งเป็นระบบนิเวศที่สำคัญต่อสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิดในทะเลและเป็นแหล่งอาหารของมนุษย์ โดยที่ผ่านมากรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ดำเนินตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้วยการส่งเสริมการสร้างเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล นำเอาประชาชนทั่วประเทศเข้ามามีบทบาทในการปกป้อง คุ้มครอง ดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของประเทศไทย

ทั้งนี้ในปัจจุบัน กรมฯ มีสมาชิกเครือข่ายชุมชนชายฝั่งกว่า 710 ชุมชน อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล 47,860 คน นับเป็นกำลังสำคัญต่อการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมทางทะเล เพื่อร่วมกันสอดส่องดูแลระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งให้มีความสมบูรณ์ยั่งยืนสืบไป และทช.ยังได้จัดกิจกรรมวันทะเลโลก อีก 10 แห่ง ตามสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ประชาชนสามารถร่วมทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ การเก็บขยะชายหาด รณรงค์ชายหาดปลอดพลาสติก การรณรงค์อนุรักษ์สัตว์ทะเลหายาก ชมนิทรรศการวันทะเลโลก เป็นต้น เพื่อกระตุ้นเตือนความสำคัญของท้องทะเล ที่ต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน

นอกจากนี้ได้ร่วมกับ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต เปิดตัว แอปพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า “Marine Warning” ระบบเตือนภัยท่องเที่ยวทางทะเล ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นแจ้งเตือนภัยบริเวณอาจเกิดภัยพิบัติขึ้นได้ รวมถึงข้อปฏิบัติเมื่อเผชิญเหตุพร้อมวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อได้รับบาดเจ็บจากแมงกะพรุนพิษและภัยทางทะเลอื่นๆ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่าง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กับบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ที่นำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทในการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ผ่านการทำงานของระบบเตือนภัยท่องเที่ยวทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นจากการท่องเที่ยว

นายชาทิตย์ ห้วยหงษ์ทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า เชฟรอนมีความยินดีให้การสนับสนุนกรมทช. ในการพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยท่องเที่ยวทางทะเล เพื่อให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้เข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างทันท่วงที ที่ผ่านมา เราได้ประสานความร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยส่งทีมงานด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ ร่วมหาแนวทางในการพัฒนาระบบ ที่ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัย โดยแอปพลิเคชั่นนี้มีระบบแจ้งเตือนภัยทางทะเลในกรณีต่างๆ

รวมทั้งมีระบบรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ข้อควรระวัง รวมถึงแนวทางรับมือและการปฐมพยาบาล ตลอดจนองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ทางทะเล ซึ่งการสนับสนุนในครั้งนี้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของเชฟรอน ในฐานะบริษัทพลังงานที่มุ่งให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่งต่อชุมชนและบุคลากร รวมถึงปกป้องสิ่งแวดล้อม ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานในประเทศไทยมากว่า 6 ทศวรรษ