เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจวันที่ 2 ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการลงพื้นที่ตรวจราชการและร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวเขตภาคเหนือ “เมืองล้านนาน่าเที่ยว”จ.เชียงใหม่ จ.ลำพูน และจ.ลำปาง ระหว่างวันที่ 7 – 9 มิ.ย.เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ตลาดจริงใจมาร์เก็ต ต.ป่าตัน อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่  โดยนายกฯ สวมเสื้อลายช้างสีน้ำเงิน เป็นประธานพิธีเปิดงาน “เปิดเมืองน่าเที่ยว”พร้อมด้วยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ร่วมคณะ โดยมีสส.เพื่อไทย(พท) จ.ลำปาง จ.น่านจ.เชียงใหม่ และจ.แพร่ ต้อนรับ โดยทันทีที่นายกฯมาถึงได้มีแฟนคลับพรรคพท.และประชาชนนำดอกกุหลาบมามอบให้ ขณะที่นายกฯร่วมเซลฟี่ด้วยอย่างเป็นกันเอง

โดยเมื่อนายกฯ เดินทางถึงได้เยี่ยมชมร้าน Good Goods สินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ผ่านการพัฒนาคุณภาพและออกแบบให้มีความร่วมสมัย สู่ผลิตภัณฑ์แบรนด์ไทยสไตล์สากล ด้วยความปรารถนาที่จะสืบสานมรดกทางวัฒนธรรม และสนับสนุนชุมชนไทยให้มีความสุขอย่างยั่งยืน กำไรทั้งหมดนำไปพัฒนาชุมชนเพื่อรักษาวัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไป

จากนั้นนายกฯ กล่าวเปิดงานว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานเปิดเมืองน่าเที่ยว ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายหลัก IGNITE THAILAND ของรัฐบาล เพื่อคืบคลานไปสู่จุดมุ่งหมายหลักให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของโลก เราทราบกันดีอยู่แล้วประเทศไทยเป็นเมืองน่าเที่ยวในหลายๆโพลหลายสำนักบอกเรามีจุดแข็ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัฒนธรรม อาหารการกิน เกาะที่มีความสวยงาม วัฒนธรรม ประเพณี ซึ่งเป็นจุดขายหลักของไทยและวันนี้เรามาอยู่จังหวัดเชียงใหม่หรือเป็นเมืองหลวงใหญ่ของการที่เรามีวัฒนธรรม ประเพณี ดีงามมาโดยตลอด ในอดีตเชื่อว่าทุกคนทราบดีอยู่แล้วก่อนที่จะมีโควิด-19 การท่องเที่ยวเป็นธงเรือใหญ่ แต่เหตุการณ์ที่ไม่พึงเกิดขึ้นคือโควิด 19 ทำให้มีปัญหามาอย่างต่อเนื่อง การท่องเที่ยวสะดุดมาโดยตลอด แต่รัฐบาลนี้โดยเฉพาะภายใต้การนำของ นายเสริมศักดิ์ ตระหนักดีถึงความสำคัญที่จะต้องมาช่วยปลุกตลาดการท่องเที่ยวขึ้นมา โดยเรามี 5 กลยุทธ์ ซึ่งคิดตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ 

“การท่องเที่ยวของไทยจะเดินหน้าไปอย่างเต็มสูบ การที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาตั้งแต่ก้าวแรกเหยียบแผ่นดินไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสายการบิน ซึ่งปัจจุบันมีราคาแพง ฉะนั้นการท่องเที่ยวก็ลดน้อยลง รัฐบาลให้ความตระหนักดีถึงเรื่องนี้ พยายามลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง วิธีการเข้าเมืองต้องสะดวกสบาย ไม่ใช่เข้ามาถึงแล้วติดอยู่ที่ตรวจคนเข้าเมืองระยะเวลานาน เรื่องนี้เราดูตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญขอให้ทุกท่านร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการโปรโมทการท่องเที่ยว สุขทันทีที่เที่ยวไทย สร้างความทรงจำที่ประทับใจอย่างไม่รู้ลืมตลอดไป“นายเศรษฐา กล่าว

ต่อมาเวลา 11.00 น. นายกฯเป็นประธานการประชุมหารือแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ และน่าน) ที่ห้องประชุมตลาดจริงใจมาร์เก็ต โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ และน่าน เข้าร่วม นอกจากนี้ยังมี สส.เพื่อไทย นายรังสรรค์ มณีรัตน์ สส.ลำพูน นายธนาธร โล่ห์สุนทร สส.ลำปาง นายทรงยศ รามสูต สส.น่าน นายณัฐพงษ์  สุปริยศิลป์ สส.น่าน น.ส.ศรีโสภา โกฏคำลือ สส.เชียงใหม่ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ และนายนิยม วิวรรธนดิฐกุล สส.แพร่ เข้าร่วมด้วย

โดยนายกฯรับฟังรายงานสรุปการท่องเที่ยวจากผู้ว่าราชการจังหวัด จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ และน่าน  จากนั้นนายกฯ กล่าวว่า กีฬาปีนเขาที่มีการเสนอ เพราะมีคนนิยมชมชอบสูงมาก ตรงนี้เห็นด้วยและเข้าใจว่าเวลานักท่องเที่ยวมาครั้งหนึ่งนานมาก ส่วนของจ.เชียงใหม่ ผู้ว่าฯบอกว่าอยู่ในความดูแลและความรับผิดชอบสามารถที่จะเปิดใหม่ได้ ก็ขอให้ดำเนินการตรงนี้ด้วย ทั้งนี้ จ.ลำพูนมีศักยภาพสูง เข้าใจที่เสนอมาที่มีสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนเยอะมาก อัตลักษณ์ วัฒนธรรม มีความโดดเด่น เรื่องของการไปมาหาสู่เราชัดเจน มีสนามบินที่เชียงใหม่ ซึ่งเหนือสิ่งอื่นใดต้องยอมรับและต้องมาดูมหภาพใหญ่ของเศรษฐกิจว่าจริงๆแล้วผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) ของจังหวัดอยู่ต่ำมาก และตกลงเรื่อยๆ คนกลายเป็นเมืองมีแต่คนแก่เหมือนไม่มีชีวิตชีวา ต้องย้ำว่าตรงนี้คือปัญหาใหญ่ของจ.ลำพูน แต่ข้อดีเรามีศักยภาพสูง อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านโครงสร้าง ปรับโฉมจ.ลำพูนให้เป็นเมืองน่าเที่ยวได้ ซึ่งอาจจะต้องทำงานเชิงรุกมากขึ้น อาจต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างหลายอย่าง โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้เชื่อว่าจะมีทางออกมาเสนอกันต่อไป 

นายกฯ กล่าวถึงจังหวัดลำปาง มีศักยภาพสูงแต่เรื่องถนน ที่ขอมาได้มีการพูดคุยแล้วอยู่ในงบปี 68 และ 69 ซึ่งเสร็จแน่นอน และขอสนับสนุนให้ฟื้นกิจกรรมสารถีรถม้า ส่วนจ.แพร่ เป็นเมืองเสริมไม่ใช่มาแข่งขันกัน แต่พูดว่าเมืองรองเป็นการได้ค่า ให้เป็นเมืองน่าเที่ยวดีกว่า ดูแล้วมีอัตลักษณ์และวัฒนธรรมที่ดี ตรงนี้ยินดีสนับสนุนอย่างเต็มที่ 

นายเศรษฐา กล่าวว่า ขณะที่ จ.น่าน ตนสนับสนุนเป็นเมืองมรดกโลกตั้งแต่ตนเป็นแคนดิเดตนายกฯ ก็พยายามจะผลักดันควบคู่กับการอัพเกรดสนามบินให้สามารถบินได้ในเวลากลางคืน เป็นเมืองคู่แฝดหลวงพระบาง นักท่องเที่ยวจะได้มาจากหลวงพระบางและทางเมืองน่านด้วย ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญนโยบายหลักของรัฐบาล ซึ่งการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งต่อไป อาจจะขอให้ทีมงานสั่งการในที่ประชุมครม.ให้กระทรวงวัฒนธรรม ผลักดันให้จ.น่านเป็นเมืองมรดกโลก ซึ่งเชื่อว่านายเสริมศักดิ์ได้เดินเรื่องไว้แล้ว

‘นายกฯ’สวมเสื้อลายช้าง เปิดกิจกรรม ’เมืองน่าเที่ยว‘จ.เชรยงใกม่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นกลไกหนึ่งขับเคลื่อนและเป็นตัวกลางในการประสานทุกฝ่ายทำงานขับเคลื่อนข้าราชการและส่วนต่างๆ พร้อมฝากองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ซึ่งอบจ. ก็เป็นส่วนสำคัญอยากให้มีการประสานงานให้ดี.