จากกรณีที่มีผู้ใช่เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาระงับเหตุที่อยู่ในบริเวณสวนสาธารณะศาลเจ้าพ่อเขามุสิ ต.หนองปรือ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี โดยในภาพเหตุการณ์จะเห็นว่าถูกตำรวจใช้ดิ้วเหล็กฟาดคนที่อยู่ในคลิป จากนั้นก็มีตำรวจอีกคนใช้อาวุธปืนยิงออกมาหลายนัด จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์นั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังบริเวณสวนสาธารณะศาลเจ้าพ่อมุสิ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ พบพื้นปูนเป็นรอยแตก เนื่องจากถูกกระสุนยิง 6-7 นัด และในท่อระบายน้ำยังพบปลอกกระสุนตกอยู่ 1 นัด

โดย น.ส.กัญลยา ฤทธิ์ลือไกร หรือนุ้ย อายุ 28 ปี กล่าวว่า ตอนนั้นพวกตนนั่งเล่นกันอยู่ ก็มีเด็กวัยรุ่น ขี่รถจยย.เข้ามา ต่อมาก็มีตำรวจขี่ตามเข้ามาเพื่อที่จะมายึดรถ เรียกค่าปรับ 300 บาท ซึ่งเด็กวัยรุ่นคนดังกล่าวมีเงินติดตัวเพียง 200 บาท จากนั้นนายโบ้ พี่ชายตน ได้เข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่เพื่อจะไกล่เกลี่ยขอจ่ายเงินเพียง 200 บาท แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ยอม หรือถ้าไม่ได้ก็ให้เขียนใบสั่งมาแล้วตอนเช้าจะไปจ่าย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ไม่ยอมบอกว่าจะต้องเอารถของกลางไปไว้ที่โรงพัก ขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่ได้มีตำรวจคนหนึ่งผลักพี่สาวตน ซึ่งในเวลาเดียวกันตำรวจคนดังกล่าวได้หันมาถามพี่ชายตนว่า “หรือมึงจะเอากับกู” จากนั้นตำรวจคนดังกล่าวก็ได้ชกไปที่พี่ชายตน จากนั้นก็ได้มีการต่อสู้กัน ซึ่งในกลุ่มตนเองนั้นจะมีผู้หญิงอยู่ด้วยก็ได้เข้าไปห้ามแล้วก็ถูกชกด้วยเหมือนกันจนทำให้เบ้าตาเขียว ก่อนก็มีการแยกกันออกไปแล้วหนึ่งรอบ

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินไปที่รถหยิบเอากระบองเหล็กออกมา แล้วก็เดินเอามาฟาดที่หัวพี่ชายตนจนหัวแตกเลือดไหลอาบทั้งใบหน้า แล้วก็มีการใช้วุธปืนยิงออกมาด้วยหลายครั้ง จนทำให้สะเก็ดของลูกปืนมาโดนพี่ชายของตน และพี่สาวด้วย หลังจากนั้นตนจึงได้เรียกให้ทางรถมูลนิธิมารับไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวนั้นตนไม่ยอมแน่นอน และอยากจะขอความเป็นธรรม

ด้านนายอุทัย ปทุมสูติ หรือ โบ้ อายุ 34 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า ในตอนเกิดเหตุนั้น ตำรวจผลักภรรยาของตน และหันมาถามตนว่า มึงจะเอากับกูอีกคนเหรอ หลังจากนั้นเขาก็เปิดฉากต่อยตนก่อน ตนก็สู้กลับฟัดกันชุลมุน ตำรวจจึงไปหยิบดิ้วมาและตีหัวตน 3 ครั้ง และใช้ปืนยิงพื้น ตนหัวแตกจากการถูกดิ้วตี 3 แผล เย็บ 8 เข็ม และยังถูกสะเก็ดที่เขายิงปืนลงพื้นทำให้เกิดบาดแผลตามร่างกาย เรื่องนี้ตนยอมไม่ได้เพราะตำรวจทำร้ายผู้หญิง แฟนตนที่ไม่มีทางสู้ ก็ถูกเขาตีด้วยดิ้ว ยอมรับว่าตอนเกิดเหตุไม่รู้ว่าเรื่องจะจบลงยังไง เพราะเขามีปืน ถ้าเขายิง ตนก็คงตายไปแล้ว

ในขณะเดียวกันทางด้าน สภ.หนองปรือ ได้ออกแถลงการณ์ รายงานเหตุข้อเท็จจริง กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบยึดรถจักรยานยนต์และมีกลุ่มบุคคลเข้ามาขัดขวางและมีการทำร้ายร่างกายกัน เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 67 ร.ต.อ.กิติศักดิ์ พุกเปลี่ยน รอง สวป.สภ.หนองปรือ ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจรถยนต์ร่วมกับ ส.ต.ท.ศักดา รงค์ทอง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.หนองปรือ ปฎิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา 20.01 น. ของวันที่ 6 มิ.ย. 67 ถึงเวลา 08.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ต่อมาเวลาประมาณ 23.45 น. ของวันที่ 6 มิ.ย. 67 ได้ออกตรวจมาถึงบริเวณศาลเจ้าเขามุสิ หมู่ที่ 1 ต.หนองปรือ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี ระหว่างนั้นได้มีผู้หญิงไม่ทราบชื่อจำนวนสองถึงสามคน เข้ามาสอบถามเรื่องราวว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้หญิงกลุ่มดังกล่าวบอกไม่เห็นด้วยที่ตำรวจจะยึดรถจักรยานยนต์ของกลุ่มวัยรุ่น ร.ต.อ.กิติศักดิ์ ได้สอบถามสอบถามกลุ่มของผู้หญิงว่าเกี่ยวข้องอะไรกับกลุ่มวัยรุ่น ปรากฏว่าทั้งสองฝ่ายไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันและไม่รู้จักกันมาก่อน ต่อมาได้มีชายไม่ทราบชื่อ ทราบชื่อเล่นต่อมาคือนายโบ้ ซึ่งอยู่กลุ่มเดียวและรู้จักกับกลุ่มของผู้หญิงเข้ามาพูดว่าจะทำอะไร จะยึดรถหรือ เรื่องเล็กน้อยไม่ต้องยึด คนเดินเข้ามาประมาณ 10 คน และนายโบ้ ได้เดินเข้ามาดึงกุญแจรถจักรยานยนต์เพื่อไม่ให้ ร.ต.อ.กิติศักดิ์ ตรวจยึดรถ จึงพยายามกันตัวนายโบ้ ให้ออกไป และกลุ่มของนายโบ้ ได้ใช้กำลังทำร้ายก่อให้เกิดความชุลมุน เมื่อ ร.ต.อ.กิติศักดิ์ ได้ลุกขึ้นและใช้อาวุธปืนยิงลงที่พื้นเพื่อป้องกันตัวและระงับเหตุ

ต่อมานายโบ้ พร้อมพวกได้เดินเข้ามาร้องทุกข์และให้ดำเนินคดีกับ ร.ต.อ.กิติศักดิ์ ส่วน ร.ต.อ.กิติศักดิ์ ก็ได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายโบ้และพวก ขณะที่ พ.ต.อ.สรวิชญ์ บัวกลิ่น ผกก.สภ.หนองปรือ ได้รายงานเหตุเบื้องต้นให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นแล้ว

จากกรณีดังกล่าว พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้กำชับให้ พ.ต.อ.สรวิชญ์ บัวกลิ่น ผกก.สภ.หนองปรือ ดำเนินการสอบสวนอย่างตรงไปตรงมาให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย

ต่อมาทาง กลุ่มวัยรุ่นที่ได้รับบาดเจ็บ และเพื่อนๆ รวมกันประมาณ 10 คน ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรหนองปรือ เพื่อพบกับพนักงานสอบสวน เพื่อทำการแจ้งความดำเนินคดีในข้อหา ทำร้ายร่างกาย และพยายามฆ่า

ในขณะเดียวกัน ทางทีมข่าวยังได้พบกับนายณัฐศาสตร์ หรือแม็ก อายุ 21 ปี เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ถูกตำรวจเข้ามาจับกุมและเรียกค่าปรับ โดยนายแม็ก บอกว่า วันนี้ตนเองมาเสียค่าปรับที่โรงพักเป็นเงินจำนวน 100 บาท ซึ่งตอนเกิดเหตุนั้นตนเองขับรถจากจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาจอดไว้ ซึ่งตนเองก็ยอมรับว่ารถคันที่ขับนั้นแต่งซิ่ง แต่ตนเองก็ไม่ได้ขับไปไหน จนกระทั่งมีตำรวจขับรถยนต์มาขอตรวจและเรียกค่าปรับเป็นเงินจำนวน 300 บาท แต่ตนเองมีเพียง 200 บาท แล้วก็มีพี่คนที่บาดเจ็บเดินมาพูดคุยให้ก่อนที่จะดึงกุญแจออกไป จากนั้นก็มีการทะเลาะกันแล้วแล้วก็มีการชกต่อยกัน ก่อนที่จะมีเสียงปืนดังขึ้นตนเองตกใจเลยวิ่งหนี ซึ่งตนเองก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์บานปลายขึ้นถึงขนาดนี้.