จากกรณี น.ส.ใบเฟิร์น (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ชาว จ.สุรินทร์ ได้ไปทำการต่อขนตาที่ร้าน แถวย่านชุมชนหนองมะนาว ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา หลังจากต่อเสร็จ รู้สึกเกิดอาการแสบตาข้างซ้าย ทางช่างต่อขนตาให้นั่งตากพัดลม และรอให้จนกว่าจะหายแสบ ก่อนที่เธอจะเดินทางกลับมาบ้าน หลังจากนั้นปรากฏว่ามีน้ำตาไหลตลอดเวลา ผ่านไปเพียงไม่ถึง 10 วัน รู้สึกเจ็บปวดดวงตาอย่างรุนแรง พยายามไปซื้อยาแก้อักเสบมากิน แต่ก็ไม่หาย พอไปหาหมอ ถึงกับช็อก เพราะหมอบอกให้ทำใจเพราะต้องควักลูกตาออก และ ผ่าตัดใส่ดวงตาเทียมให้แทน เนื่องจากเกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรง ก่อนที่จะเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น

แลกด้วยดวงตา! พีอาร์สาวสุดช้ำ อยากสวยไปต่อขนตาที่ร้าน ติดเชื้อทำตาบอด

ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 7 พ.ค. น.ส.เปีย (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี ช่างต่อขนตา ได้ออกมาเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเพิ่งทราบข่าว หลังจากมีลูกค้าแคปข่าวมาให้ดู ว่ามีลูกค้าที่มาต่อขนตากับตน ต้องสูญเสียดวงตา เพราะถูกกาวต่อขนตาไหลใส่ลูกตา พอได้ยินรู้สึกตกใจมาก เพราะที่ผ่านมา ลูกค้ารายนี้ไม่เคยติดต่อหรือมาแจ้งให้ทราบ หากตนรู้ก็จะรีบพาไปรักษาทันที

น.ส.เปีย กล่าวว่า ยอมรับว่าเป็นคนต่อขนตาให้กับ น.ส.เฟิร์น ซึ่งในวันนั้น น.ส.เฟิร์น ได้ติดต่อมาขอต่อขนตา ระหว่างที่กำลังต่อขนตา ตนได้แนะนำกับลูกค้าว่าอย่าลืมตา เพราะต้องรอให้กาวแห้ง พอหลังจากต่อเสร็จ ลูกค้าบอกว่าแสบตา ตนจึงแนะนำให้อยู่เฉยๆ แล้วนำพัดลมมาเป่า เพื่อให้กาวแห้ง หลังจากต่อเสร็จ ก็ถามลูกค้าซ้ำว่า ยังแสบตาอยู่ไหม ซึ่งลูกค้าก็ตอบว่าไม่แสบแล้ว หลังจากนั้นลูกค้ายังอยู่ต่อที่บ้าน และเล่นกับลูกของตน เกือบ 2 ชั่วโมง ก่อนที่ลูกค้ารายนี้ จะเรียกโบลท์มารับ เพื่อกลับที่พัก พอตกกลางคืน ลูกค้าก็ยังส่งข้อความผ่าน LINE บอกว่าเธอไปดื่มต่อ ซึ่งก็ยังตอบข้อความตามปกติ จากนั้นก็ไม่ได้มีการติดต่อกันอีกเลย จนกระทั่งเวลาผ่านไป 3 เดือน มาทราบข่าวว่าลูกค้ารายนี้ ถูกกาวต่อขนตา ไหลใส่ดวงตา จนทำให้เกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรง จนสูญเสียลูกตาข้างซ้าย ทั้งที่ลูกค้ารายนี้ไม่เคยติดต่อมาบอกเลยแม้แต่ครั้งเดียว หากรู้ก่อนหน้านี้ ก็จะพาไปรักษาได้เร็วกว่านี้

น.ส.เปีย ยังกล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกตกใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์ทั้งหมด เกิดขึ้นเพราะความผิดพลาดของตนหรือไม่ ตอนนี้รู้สึกท้อ เพราะตนอยู่บ้านเลี้ยงลูก และทำอาชีพต่อขนตามานานกว่า 5 ปี ที่ผ่านมามีลูกค้าประจำมาใช้บริการกับตนจำนวนมาก แล้วหลังจากนี้จะทำมาหากินอะไร หากเป็นช่างต่อขนตาทั่วประเทศ ต้องอยู่ในสภาวะแบบตน จะรู้สึกอย่างไร ที่สำคัญ ทำไมลูกค้าถึงไม่ทักบอกตนเลยแม้แต่ครั้งเดียว หากตนรู้ ก็จะรีบพาไปหาหมอกันทัน และต้องรีบถอนขนตาให้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อมา ยืนยันว่าตนไม่ได้หลบหนีไปไหน ตามที่มีข่าวออกไปว่าตนหนีไปกรุงเทพฯ อีกทั้งยอมรับว่าตอนนี้กำลังช็อกกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น.