เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนชาวบ้านจากชุมชนห้วยหินลาดใน ต.บ้านโป่ง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย กว่า 10 ราย ได้เดินทางไปยังสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) เพื่อยื่นหนังสือให้กับผู้อำนวยการสำนักฯ ดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์ชายชุดดำ 3 คน ปิดคลุมใบหน้า พร้อมอาวุธปืนยาว 1 กระบอก ทำลายไร่หมุนเวียนชุมชนกะเหรี่ยง ทำลายอุปกรณ์พิธีกรรมฤดูเพาะปลูก กรีดถังน้ำดับไฟป่า และสอบสวนหากลุ่มชายชุดดำว่าเป็นผู้ใด แต่ได้รับแจ้งจากทางผู้อำนวยการสำนักฯ ว่า พยานหลักฐานต่างๆ ที่ตัวแทนชุมชนนำมาให้นั้น ไม่สามารถระบุได้ หรือ ยืนยันได้ชัดเจนว่า เป็นการกระทำของบุคคลใด หรือ เจ้าหน้าที่คนใด จึงไม่สามารถดำเนินการสอบสวนให้ได้ แต่ผู้อำนวยการสำนักฯ ได้แจ้งให้ตัวแทนชุมชน ไปดำเนินการแจ้งความ เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิด

โดยตัวแทนชาวบ้าน เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 4 มิ.ย. 67 มีเจ้าหน้าที่จำนวน 3 นาย มีผ้าปิดคลุมใบหน้า พร้อมอาวุธปืนยาว 1 กระบอก ได้ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านเข้ามาในบริเวณชุมชน ซึ่งทางชุมชนเข้าใจว่าเป็นการเข้ามาลาดตระเวนที่ต้องใช้เส้นทางดังกล่าวเข้าออกเป็นปกติ จนกระทั่งชาวบ้านได้เข้าไปยังบริเวณไร่หมุนเวียนแปลงดังกล่าวแล้วพบว่า ทรัพย์สินในกระท่อมในไร่หมุนเวียนถูกรื้อทำลาย รวมทั้งถังเก็บน้ำสำรองที่ใช้ดับไฟป่าก็ถูกกรีดและถูกปล่อยน้ำออกจนหมด ที่สำคัญ คือ อุปกรณ์พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ในไร่หมุนเวียนตามความเชื่อของชุมชนกะเหรี่ยง “จื่อ ลอ มวา ข่อ” ที่ใช้สื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในธรรมชาติที่จะขอให้ฟ้าฝนช่วยให้การเพาะปลูกราบรื่นนั้น ถูกรื้อทำลายกระจัดกระจาย ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่า หากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐโดยปกติจะมีการแจ้งทางผู้ใหญ่บ้านให้ทราบวัตถุประสงค์ในการเข้ามาในพื้นที่ เจ้าของแปลงทำกินก็จะสามารถพาไปลงพื้นที่แปลงทำกินของตนเพื่อยืนยันลักษณะการทำกินได้ แต่ครั้งนี้กลับไม่มีการแจ้งให้ทราบแต่อย่างใด ทางชุมชนจึงไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดจึงมีการกระทำเช่นนี้ในพื้นที่ (มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ)

ขณะที่เพจ Manop Keereepuwadol – มานพ คีรีภูวดล ของ นายมานพ คีรีภูวดล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้มีการโพสต์ข้อความรัฐต้องเร่งตรวจสอบชายชุดดำคล้ายเจ้าหน้าที่รัฐ เข้าทำลายไร่หมุนเวียนชุมชนกะเหรี่ยง ทำลายอุปกรณ์พิธีกรรมฤดูเพาะปลูก กรีดถังน้ำดับไฟป่า โดยมีเนื้อความว่าการกระทำของใครก็ตามที่คุกคามทำลายจารีตประเพณีความเชื่อ วัฒนธรรม และระบบการผลิตเพื่อยังชีพ เป็นการกระทำที่ไร้ความเคารพในความเป็นมนุษย์ ไร้ความคิด ไร้ความรู้ปัญญา ไร้ความรู้สึก และเป็นการทำผิดกฎหมาย ผู้ใดอยู่เบื้องหลังความคิดนี้ จงออกมารับผิดชอบในสิ่งที่กระทำลงไปครั้งนี้ ณ ชุมชนห้วยหินลาดใน ต.บ้านโป่ง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย

ด้านเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า การกระทำดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อความรู้สึก ความเชื่อ คุณค่าของชุมชนกะเหรี่ยงเป็นอย่างมาก และขอประณามการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าวและผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ว่าเป็นการกระทำที่ใช้ความรุนแรง และละเมิดสิทธิทางวัฒนธรรม ไร้มนุษยธรรม เป็นการทำลายทรัพย์สิน มรดกทางวัฒนธรรม พื้นที่จิตวิญญาณ และจิตใจของชาวกะเหรี่ยง ทั้งที่มีความพยายามขับเคลื่อนประเด็นการลดอคติทางชาติพันธุ์เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมไทยที่มีความเคารพและยอมรับความหลากหลายวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง คนห้วยหินลาดอาศัยอยู่กับผืนป่ามากกว่าหนึ่งร้อยปี ช่วยกันฟื้นฟูป่าไม้ธรรมชาติให้กลับมามีสภาพอุดมสมบูรณ์ แม้จะเคยถูกนำไปสัมปทานไม้มาก่อน ชาวบ้านทำไร่หมุนเวียน ต่อต้านการใช้สารเคมี สร้างผลผลิตในป่า ปลูกพืชผสมผสานกับผืนป่าอย่างกลมกลืน ได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียว และเป็นชุมชนตัวอย่างนำร่องตาม “มติคณะรัฐมนตรี 3 สิงหาคม 2553 เรื่องแนวนโยบายในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง” เป็นพื้นที่ตัวอย่างในระดับนโยบายและเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่สำคัญ เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นไม่ว่าที่ใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้ สภาผู้แทนราษฎรกำลังพิจารณากฎหมายว่าด้วยสิทธิชุมชนชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง หลายภาคส่วนในสังคมพยายามขับเคลื่อนวาระความหลากหลายทางพหุวัฒนธรรม การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยชุมชนท้องถิ่น ความเป็นธรรมทางสังคม

ขอเรียกร้องต่อรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งตรวจสอบหาผู้ก่อเหตุ แสวงหาข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์นี้ ผมและพรรคก้าวไกลจะร่วมติดตามตรวจสอบและจะใช้ทุกกลไก ทุกช่องทางในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อสร้างบรรทัดฐานความเป็นธรรมในสังคม ไม่ควรต้องมีใคร ชาติพันธุ์ใด วิถีวัฒนธรรมไหนถูกละเมิดศักดิ์ศรีเช่นนี้ เป็นเรื่องน่าเศร้าและเจ็บปวดมากที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางการพิจารณากฎหมายสิทธิชาติพันธุ์ในสภาผู้แทนราษฎร เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศของการเฉลิมฉลองสิทธิความหลากหลายของผู้คนในสังคม.