นับเป็นประเด็นร้อนที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ไม่น้อย สำหรับเรื่องราวของพระเอกชื่อดังอย่าง “เอก-สรพงศ์ ชาตรี” ที่แม้วันนี้ได้จากโลกนี้ไปแล้ว แต่ความดีและผลงานของสรพงศ์ที่แฟนๆ ชาวไทยรักยังอยู่ให้แฟนๆ ได้มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอยู่เสมอ ซึ่งล่าสุดก็ได้มีการพูดถึงเรื่องราวมรดก หรือสมบัติของสรพงศ์ หลังจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ออกมาประกาศโพสต์ขายบ้านหรูของสรพงศ์ในราคาสูงถึง 99 ล้านบาท

งานนี้ทำเอาชาวเน็ตต่างตกใจและสงสัยว่าทำไมถึงประกาศขายบ้านหรู ท่ามกลางคำถามมากมาย ซึ่งต่อมาก็ได้มีชาวเน็ตรายหนึ่งออกมาโผล่เขียนข้อความเตือนกลางไอจีของสาวสวย “ขวัญ พิมพ์อัปสร” ลูกสาวของสรพงศ์ ออกมาอ้างว่าเป็นลูกของคนดูแลที่ดินของสรพงศ์ ที่ จ.ชัยภูมิ กำลังจะถูกโกง อยากติดต่อขอพูดคุยสักหน่อย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด “ขวัญ พิมพ์อัปสร” ได้เดินทางมาร่วมงานอีเวนต์เปิดตัวบริษัท Hollywood Aueen พร้อมกับได้เปิดใจถึงประเด็นสมบัติของพ่อว่า “ตกใจก่อน ตอนแรกไม่ทราบเลย พี่ๆ นักข่าวโทรฯ มาเยอะมากว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะตอนแรกก็ไม่รู้ข่าว ก็เลยลองหาข่าวอ่าน แล้วก็เลยบอกพี่ๆ ขอพูดทีเดียว ขอโพสต์ทีเดียวเลยดีกว่าว่าเราไม่เคยทราบ ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสมบัติของคุณพ่อเลย ปฏิสัมพันธ์ก็เป็นพ่อลูกปกติ ไม่เคยคุยเรื่องนี้ใดๆ เลย ไม่รู้เรื่องสมบัติเลย และไม่ได้อยากรู้เพราะมันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เรื่องบ้านไม่รู้ ไม่เคยคุยกันเรื่องสมบัติพ่อ ไม่เคยรู้ และไม่เคยคุยกันเรื่องนี้ คุยกันตามประสาพ่อลูก คุยเรื่องอื่นมากกว่า พอมีปัญหานี้เกิดขึ้นก็ไม่รู้ว่าจะต้องจัดการปัญหายังไง จริงๆ เคลียร์ชัดเหมือนเดิมว่าขวัญไม่เคยทราบเรื่องสมบัติคุณพ่อ ดังนั้นขวัญรู้สึกว่ามันไม่ใช่ปัญหาเพราะเราไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่แรก ทางเราก็ทำงานปกติ พ่อก็รู้ว่าขวัญไม่ได้ยื่นมือเข้าไปยุ่ง มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่”

“ส่วนคุณแม่ยิ่งไม่ยุ่งใหญ่เลย เพราะถ้าคุณแม่รู้ว่าพ่อลูกก็จะปล่อย เขาไม่เคยเข้ามายุ่ง ยิ่งตอนนี้เขาไม่รู้เรื่อง และเขาไม่เคยอยากจะเข้ามารู้เรื่องสมบัติ เขาไม่มีส่วนข้องเกี่ยว เวลาถามแม่ แม่ก็บอกไม่รู้ ขอบคุณคนที่เข้ามาเตือนที่ดินแม่เราจะไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง อย่างน้อยเขาก็หวังดีกับเรา แต่เราก็ไม่ได้เข้าไปยุ่ง และประกาศตัวว่าไม่เข้าไปยุ่ง เราก็ทำตามเจตนาเดิม ย้ำว่าสมบัติเราไม่ได้เข้าไปยุ่งเลย ส่วนเรื่องการจัดการมรดก ถ้ามีชื่อเราเข้าไปเกี่ยวข้อง มันตอบยาก เพราะตอนนี้ขวัญยังไม่รู้เลยว่าทำเรื่องมรดกยังไง ด้วยความที่เราไม่เคยคุยกัน และไม่ได้สนใจที่จะเข้าไปยุ่ง ดังนั้นมันไกลมาก พอพ่อเสียก็ยังไม่มีใครมาประกาศตัวว่าเป็นผู้จัดการมรดกเลย น้องๆ คนอื่นก็ไม่เคยพูดเรื่องสมบัติ มีแต่ชวนกันไปทานข้าว ไม่มีเรื่องพวกนี้เลย คือก็ไม่รู้ว่ามันจะมีโอกาสเกิดขึ้นไหม เรื่องประกาศขายบ้านไม่ทราบจริงๆ ไม่รู้ว่าพ่อยกให้ใครไป หรือทำพินัยกรรมใดๆ หรือเปล่า เราก็ไม่ได้สืบด้วย ก็เลยไม่ทราบจริงๆ”

ขวัญ เผยต่อว่า “(ย้ำชัดเจนไม่ข้องเกี่ยว?) มันไม่ใช่สาระสำคัญ (หัวเราะ) คือขวัญยังโชคดีที่เราเป็นลูกคุณพ่อ เรามีโอกาสที่มากกว่าคนอื่นๆ ที่เป็นหลาน ญาติ อย่างน้อยเราได้ทำงานในวงการ มีโอกาสมากกว่าเขา ขวัญรู้สึกว่าคุณพ่อก็สนับสนุนเราที่เราต้องการมอบสมบัติให้หลานๆ และญาติคนอื่นๆ ตอนที่เราบอกคุณพ่อว่าจะยกให้หลานเขาก็เข้าใจ ว่าเรามีเหตุผล และคุณพ่อก็เป็นคนไม่คิดมาก และเป็นคนรักคุณป้า หลานๆ เป็นคนรักทุกคน ดังนั้นคุณพ่อก็น่าจะเห็นด้วยที่เรายกสมบัติให้คนอื่นไป ส่วนเรื่องข่าวเราก็ไม่ได้ติดตามเลย เพราะสุดท้ายใครขายแล้วยังไงต่อ แล้วเราจะไปทำยังไงเขาเหรอ คืออย่างที่บอกเราไม่ได้ยื่นมือไปยุ่งแต่แรก”..