เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยผลการจับกุมนายศุภณัฐ สลับสี หรือบังซิน อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.776/2567 ลงวันที่ 4 พ.ค. 67 ในข้อหา “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน” โดยชุดจับกุมประกอบด้วย ตำรวจ บก.สส.บช.น. ตำรวจ สืบ บก.น.3 และ สน.หนองจอก จับกุมตัวได้ที่ บ้านเลขที่ 1 หมู่ 6 ถนนคลองสิบสาม แขวงคลองสิบสอง เขตหนองจอก กทม. พร้อมด้วยของกลาง ปืนยาว จำนวน 2 กระบอก และเสื้อที่ใช้ในการก่อเหตุ 1 ชุด

พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.30 น. เกิดเหตุมีแก๊งอันธพาล ขี่ จยย. ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 7 คัน รวมกว่า 11 คน สวมหมวกกันน็อกเต็มใบปกปิดใบหน้า ไล่ยิงคู่อริกว่า 16 นัด กลางถนน บริเวณหน้าร้านหมู่จุ่มตำแซ่บ เลียบวารี ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กทม. ทำให้ชาวบ้านบริเวณดังกล่าวและรถที่สัญจรไปมาบนท้องถนน พากันหลบเข้ากำบังหนีตายเกรงว่าจะถูกลูกหลง

ต่อมาตำรวจ สน.หนองจอก สามารถควบคุมตัวไว้ได้ 4 ราย ซึ่งจากการขยายผลทำให้ทราบว่า นายศุภณัฐ สลับสี หรือบังซิน หัวโจกของแก๊ง และนายชนาภัทร เล็กขำ หรือคิม เป็นผู้ที่เหนี่ยวไกเปิดฉากยิงใส่คู่อริ ซึ่งต่อมาทั้งสองรายนี้ก็ได้ถูกออกหมายจับ โดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ดำเนินการสืบสวนจนทราบเซฟเฮาส์ลับที่เป็นจุดรวมพลของกลุ่มผู้ก่อเหตุ

จนกระทั้งเช้าวันนี้ (7 มิ.ย.) พล.ต.ต.ธีรเดช ได้เปิดปฏิบัตการ “ทลายแก๊งบังซิน” โดยนำกำลังชุดสืบนครบาล, กก.สส.บก.น.3 และ ตำรวจสืบสวน สน.หนองจอก เข้าตรวจค้น 2 จุด ในพื้นที่ย่านหนองจอก โดยสามารถจับกุมตัว นายศุภณัฐ สลับสี หรือบังซิน หัวหน้าแก๊งได้ขณะนอนกบดานอยู่ภายในเซฟเฮาส์ ซึ่งจากการตรวจค้นพบอาวุธปืนยาว 2 กระบอก หมวกกันน็อกกว่า 20 ใบ และจากการตรวจสอบพบว่าเซฟเฮาส์แห่งนี้ จะเป็นที่รวมตัวของกลุ่มนักศึกษาอาชีวะชื่อดังย่านหนองจอก แต่ส่วนใหญ่จะไม่มีสถานะเป็นนักศึกษาแล้ว แต่ยังรวมตัวรวมกลุ่มแสดงพลังเช่นนี้อยู่เป็นประจำ และล่าสุด นายชนาภัทร ผู้ต้องหาอีกรายที่ยังหลบหนี ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ สน.หนองจอก เพื่อขอมอบตัวแล้ว

ในชั้นจับกุม นายศุภณัฐ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ในคืนวันเกิดเหตุ ตนเองและพวกขี่รถ จยย. ไปตามท้องถนน และได้ขับสวนกับกลุ่มใดไม่ทราบ แต่เห็นว่ามีการชูนิ้วกลางขึ้นมาใส่กลุ่มของตน จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงไปแต่ไม่โดนใคร โดยหลังเกิดเหตุ ก็ได้นำปืนไปทิ้งหมดแล้ว เพราะรู้ว่าเจ้าหน้าที่จะต้องตามมาจับแน่ๆ และไม่คิดจะต่อสู้เพราะกลัวจะถูกวิสามัญ และยืนยันว่าการรวมตัวที่เซฟเฮาส์นี้ เป็นแค่การมาตั้งวงกินน้ำกระท่อม ไม่ได้ไปก่อความวุ่นวายใดๆ ส่วนหมวกกันน็อกจำนวนมากในบ้านนั้น เพราะเวลาคนไปๆ มาๆ ก็จะชอบทิ้งไว้ที่บ้านของตน ยืนยันว่าบ้านหลังนี้ไม่ได้มีไว้ทำกิจกรรมใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนเสื้อดอนผีบินในบ้านนั้นยืนยันว่าตนเองซื้อมาเองจริงๆ ไม่ได้ไปขโมยใครมา

หลังจับกุมตัว ได้นำตัวส่ง สน.หนองจอก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า หลังจากผมทราบเรื่องนี้ ผมให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก การรวมแก๊งของวัยรุ่นแล้วไปไล่ยิงกันบนท้องถนนมากกว่า 16 นัด มันเหตุอุกฉกรรจ์ที่ร้ายแรง ถือโชคดีที่ไม่มีใครถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แก๊งแบบนี้จะมีอยู่จากการรวมตัวกันของเหล่าอันธพาลตามที่ต่างๆ ซึ่งจะต้องถูกปราบปรามให้หมดสิ้น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของประชาชนทุกคน ขอให้ประชาชนเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน หากผู้ใดมีเบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีนี้ โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.