เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายสาธร บัวจันทร์ และ นายบุญธรรม ลำเจียกมงคล 2 นักธุรกิจซึ่งเป็นศิษย์เอกของ พระมงคลวรสิทธิ์ หรือ หลวงปู่ยิ้ม เจ้าอาวาสวัดลาดปลาเค้า ต.บางแขม อ.เมืองนครปฐม ว่า หลวงปู่ยิ้ม ได้ละสังขารลงแล้ว ที่โรงพยาบาลธนบุรี เมื่อเวลา 09.57 น.ของวันที่ 6 มิ.ย. 67 และจะนำศพมาบำเพ็ญกุศลที่วัดลาดปลาเค้า ในเวลา 10.00 น. ของวันที่ 7 มิ.ย. 67 หลังจากข่าวได้แพร่สะพัดออกไป ชาวบ้านตำบลบางแขม ต่างมาที่วัดและช่วยกันจัดสถานที่รองรับไว้ให้อย่างสวยงาม ประดับด้วยดอกไม้สีขาว โดยจะนำศพท่านขึ้นตั้งที่ศาลาใหญ่วัดลาดปลาเค้า

โดยเปิดให้ประชาชนสรงน้ำในช่วง 11.00 น.เป็นต้นไป จากนั้นในช่วง 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงสรงศพ หลังจากเสร็จสิ้นพิธีในช่วง 19.00 น. ของทุกวันจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ทุกคืนเป็นเวลา 21 วัน ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. ถึง 27 มิ.ย. จากนั้นจะเก็บศพท่านไว้ 100 วัน ก่อนที่จะประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ

นายสาธร บังจันทร์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ต.บางแขม อ.เมืองนครปฐม  ซึ่งเป็นศิษย์ผู้ใกล้ชิด กล่าวว่า หลวงปู่ยิ้ม เป็นที่นับถือของชาวบางแขม และชาวนครปฐม มากเพราะท่านไม่เคยมีประวัติในเรื่องเสื่อมเสีย เป็นทั้งนักปฏิบัติธรรม และนักพัฒนา และยังเป็นเกจิอาจารย์ เป็นศิษย์เอกร่ำเรียนวิชาจากหลวงพ่อเงินวัดดอนยายหอม สมัยที่หลวงพ่อเงินท่านยังมีชีวิตอยู่ อดีตเคยออกงานปลุกเสก แต่ระยะหลังท่านไม่ได้ออกเลยมา 20 ปี กลับมาพัฒนาวัดสอนปฏิบัติธรรม เพราะมีอายุมาก เลยทำให้ห่างเหินจากวงการ แต่บรรดาศิษยานุศิษย์ ก็ยังไปมาหาสู่ท่านตลอด มาสนทนาธรรมกับท่านและชื่นชอบที่หน้าตาท่านยิ้มอยู่ตลอด สมกับนามของท่านหลวงปู่ยิ้ม

นายสาธร กล่าวว่า สุขภาพของท่านก่อนเข้าโรงพยาบาลนั้นดีมาก ศิษย์พาไปตรวจบ่อย แพทย์ยังแปลกใจว่าท่านมีสุขภาพที่แข็งแรงถึงแม้อายุท่านจะมากถึง 101 ปี ก็ตาม ท่านยังเดินตรวจตราวัดโดยมีไม้เท้าคู่ใจเดินไปไหน ก็มีไม้เท้า ก่อนหน้าที่จะเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลธนบุรี เมื่อปีที่ผ่านมาอายุท่านครบ 100 ปี บรรดาผู้นำชุมชนและชาวบ้านต่างระดมทุนจัดงานวันเกิดให้ท่าน ว่าจ้างวงคาราบาว มาแสดงที่วัดฉลองวันเกิดให้ท่าน

นายสาธร กล่าวว่า จากนั้นท่านมาเริ่มป่วยเมื่อเดือนที่ผ่านมา มีอาการมึนศีรษะด้วยวัยชรา พระผู้ดูแลท่านจึงแจ้งให้ทราบจึงนำตัวท่านไปให้ตรวจที่ รพ.ธนบุรี แพทย์ตรวจดูอาการก็ไม่พบว่าท่านเป็นโรคอะไร  แพทย์แนะนำให้ท่านพักผ่อนเพราะท่านนอนไม่ค่อยหลับให้พักผ่อนมากๆ บรรดาศิษย์เลยให้ท่านพักรักษาตัวที่ รพ.ไปก่อน จนอาการท่านดีแล้วค่อยกลับวัด จนกระทั่งเมื่อตอนเช้า 09.57 น.ของวันที่ 6 มิ.ย. 67 ท่านก็หลับไปเฉยๆ โดยที่ใบหน้าท่านยังยิ้มหน้าใส เหมือนคนนอนหลับ แต่เมื่อแพทย์มาตรวจพบว่าท่านได้ละสังขารไปแล้ว จึงแจ้งมาที่วัดให้เตรียมงานศพให้ยิ่งใหญ่ และแพทย์ให้นำศพกลับวัดได้ในวันที่ 7 มิ.ย. 67

สำหรับประวัติของหลวงปู่ยิ้มนั้น ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะพระเกจิ และพระนักพัฒนาระดับแนวหน้าเมืองนครปฐม อีกทั้งเป็นศิษย์สายตรงที่ได้รับเมตตาถ่ายทอดวิทยาคมจากหลวงพ่อเงิน จันทสุวัณโณ วัดดอนยายหอม เกิดในสกุล ใจซื่อตรง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ต.ค. 2466 ที่บ้านเลขที่ 34 หมู่ที่ 7 ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม  เมื่ออายุ 25 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดลาดปลาเค้า จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2491 พระครูอุตตร การบดี (หลวงพ่อสุข) วัดห้วยจระเข้เป็นพระอุปัชฌาย์  อยู่จำพรรษาที่วัดลาดปลาเค้า มุ่งมั่นศึกษาพระธรรมวินัย-พระปริยัติธรรม จนสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ ในระหว่างศึกษายามว่างไปศึกษาด้านวิชาอาคมจากหลวงพ่อสุข วัดห้วยจระเข้ และหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จนท่านรับเป็นศิษย์ครอบครูประสิทธิ์ประสาทวิชาให้

ในระหว่างการศึกษาสรรพวิชา ยังได้ออกธุดงค์ไปตามป่าเขาแถบชายแดนประเทศกัมพูชา เผยแผ่พระพุทธศาสนาตั้งปณิธานจะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างถึงที่สุด จากนั้นเมื่อกลับมาวัดลาดปลาเค้าก็เริ่มช่วยงานพัฒนากับอดีตเจ้าอาวาส จนได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส จนในปี 2506 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส ในปี 2517 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองนครปฐม พ.ศ. 2549 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระมงคลวรสิทธิ ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 14 ชาวบ้านตำบลบางแขม ต่างยกย่องให้เป็นพระเกจิอาจารย์นักพัฒนามีผลงานการพัฒนาวัดและพัฒนาชุมชน ส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาของพระภิกษุสามเณรและเยาวชน โดยเฉพาะโรงเรียนวัดลาดปลาเค้า ท่านสร้างอาคารเรียน สนามกีฬา เครื่องดนตรีอุปกรณ์การสอน ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มอบทุนการศึกษา ให้ความร่วมมือกับราชการอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอทุกปี