ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 7 มิ.ย. 67 ที่กรมธนารักษ์ ตัวแทนชุมชนหลังหมอชิตเก่าหลายสิบคน ได้เดินทางมายังกรมธนารักษ์ เพื่อยื่นหนังสือถึง รมว.คลัง และอธิบดีกรมธนารักษ์ ขอคัดค้านการต่ออายุพระราชกฤษฎีกา กำหนดแนวเวนคืนที่ดินชุมชนหลังหมอชิตเก่า ซึ่งมีตัวแทนจากทั้ง รมว.คลัง และอธิบดีกรมธนารักษ์ มารับมอบหนังสือ

น.ส.วินินท์อร ปรีชาพินิจกุล ตัวแทนชุมชนหลังหมอชิตเก่า เปิดเผยว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อต้องการเรียกร้องให้กระทรวงการคลัง และกรมธนารักษ์ พิจารณายกเลิกการเวนคืนที่ดินบริเวณชุมชนหมอชิตเก่าทั้งหมด เนื่องจากการต่ออายุการเวนคืนทุก 4 ปี ได้สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่อยู่อาศัยมานานเกือบ 30 ปี เพราะทำให้ชาวบ้านที่อยู่ในเขตเวนคืนไม่สามารถซื้อขายที่ดินได้ หรือบางคนจะซ่อมแซมบ้านก็ไม่กล้า เพราะกลัวซ่อมไปแล้วจะถูกเวนคืน ต้องปล่อยให้บ้านเรือนชุมชนหลังหมอชิตทรุดโทรม

นอกจากนี้ ยังขอรัฐบาลพิจารณายกเลิกการสร้างทางยกระดับเชื่อมโครงการหมอชิต คอมเพล็กซ์ เพราะมองว่าการเอางบประมาณกว่า 2 พันล้านบาทมาสร้างทางยกระดับ เชื่อมเข้ากับโครงการหมอชิต คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นโครงการของเอกชนไม่มีความเหมาะสม และไม่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม รวมถึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบความโปร่งใสของการดำเนินโครงการดังกล่าวอีกด้วย

“เราไม่ได้คัดค้านความเจริญ และโครงการหมอชิต คอมเพล็กซ์ เพียงแต่อยากให้หน่วยงานภาครัฐพิจารณาดำเนินโครงการด้วยความเป็นธรรม ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่อยู่มาเนิ่นนาน ซึ่งการเวนคืนจะทำประชาชนหลาย 100 หลังคาเรือน ที่อยู่ในซอยพหลโยธิน 18 พหลโยธิน 18/1 และวิภาวดีรังสิต 5 ต้องเดือดร้อน จึงอยากให้ภาครัฐช่วยยกเลิกการต่ออายุพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินที่จะหมดอายุในเดือน ส.ค.นี้ไปเลย”

ด้านนางวิสากร สุขช่วย ผู้อำนวยการกองบริหารที่ราชพัสดุกรุงเทพมหานคร กรมธนารักษ์ ซึ่งเป็นตัวแทนรับมอบหนังสือกรมธนารักษ์ กล่าวว่า กรมฯ จะนำข้อเรียกร้องของชุมชนไปร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบก บริษัท ขนส่ง จำกัด และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เพื่อหารือถึงความเห็นจากหลายภาคส่วน เนื่องจากหมอชิต คอมเพล็กซ์ และการเวนคืนที่ดินเป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย จึงต้องรับฟังเหตุผลให้รอบด้าน รวมถึงนำความเดือดร้อนของประชาชนเข้ามาพูดคุย โดยจะมีการนำข้อมูลมาหารืออัปเดตสถานการณ์ให้เหมาะสมกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปด้วย