จากกรณี น.ส.จิตดี ศรีดี ผู้ประกาศข่าวสาวชื่อดัง พร้อม นายชาญชัย ฉายบุก ที่ปรึกษามูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ให้ช่วยติดตามหาคู่กรณีที่ขับ รถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ สีดำ มาเฉี่ยวชนรถยนต์ของตนได้รับความเสียหาย แต่กลับไม่ยอมลงมาพูดคุยตกลง ทั้งยังขับรถหลบหนีไปทันที เหตุเกิดบน ถ.รัตนาธิเบศร์ บริเวณทางเข้าศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี เมื่อช่วงเช้าวันที่ 6 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่พอทราบตัวผู้ขับขี่รถกระบะคู่กรณีแล้ว พร้อมประสานให้มาพบพนักงานสอบสวน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. มีรายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงค่ำวันที่ 6 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา น.ส.เอ (นามสมมุติ) คนขับรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ สีดำ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรีแล้ว โดยให้การอ้างว่า เป็นคนขับรถกระบะชนท้ายรถยนต์เก๋งของผู้ประกาศข่าวสาวจริง ส่วนที่ขับรถหลบหนีไปนั้น เพราะนึกว่ารถของตนไม่ได้เฉี่ยวชนจึงรีบขับรถเข้าไปทำงาน กระทั่งมาทราบจากพี่ชายที่มีชื่อเป็นเจ้าของรถ ว่ารถที่ตนขับไปได้เฉี่ยวชนรถของคนอื่นจนได้รับความเสียหาย หลังเลิกงานจึงเดินทางเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที พร้อมเรียกเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันรถยนต์ของตน ซึ่งทำประกันภัยชั้น 1 ให้เข้ามารับผิดชอบความเสียหายรถยนต์เก๋งของผู้ประกาศข่าวสาวด้วย แต่ไม่ยอมให้รายละเอียดเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับสื่อมวลชน

ด้าน น.ส.จิตดี กล่าวว่า ตนต้องขอบคุณในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ พอได้ทราบเหตุผลของคู่กรณีแล้วก็รู้สึกไม่โอเค คุณบอกว่ารีบ แต่หากเป็นปุถุชนคนธรรมดาที่มีสามัญสำนึก การที่ตัวเองขับรถชนคนอื่น ต้องจอดรถและลงมาแลกเบอร์ก่อนจะแยกย้ายไป แต่นี่คือหักรถแล้วไปเลย ตนเลยรู้สึกว่าเขาสำนึกผิดจริงหรอ ถ้าตนไม่มาแจ้งความ ไม่ตามรถ ไม่เจอตัว จะมามอบตัวหรือไม่ ตนต้องมาเสียเงินซ่อมรถเองใช่มั้ย ซึ่งตนรักรถของตนมาก ทั้งนี้ มันอยู่ที่สำนึกจริง ๆ ตนไม่ได้คุยกับทางคู่กรณี แต่อยากฝากไว้ว่าอย่าคิดว่าเพียงรถสะกิดนิดเดียวแล้วไม่เป็นอะไร มันไม่น่าใช่ ควรจอดรถเพื่อมาพูดคุยและเคลียร์กันจะดีกว่า

ขณะที่ นายชาญชัย เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นความผิดของคู่กรณีในข้อหา 2 กระทง 1.การขับรถโดยประมาท น่าหวาดเสียว มีโทษปรับ 400-1,000 บาท 2.คดีชนแล้วหนี พรบ.จราจรกำหนดไว้ชัดเจนว่าหากขับรถชนผู้ใด ต้องจอดรถและช่วยเหลือตามสมควร ต้องแสดงตัวและแจ้งเหตุนี้กับตำรวจที่สถานีตำรวจใกล้เคียง รวมถึงต้องแจ้งข้อมูลส่วนบุคคล ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขทะเบียนรถให้ชัดเจนต่อผู้เสียหาย นี่คือสิ่งที่ทางผู้เสียหายไม่เคยได้รับเลยในวันนี้ ดังนั้นตนอยากให้คดีนี้ของคุณจิตดี เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วไป ว่าขับรถชนใครอย่าหนี เพราะถ้าหนี ไม่มีจิตใต้สำนึกในการช่วยเหลือ มีโทษทางอาญา และต้องไปลุ้นในชั้นศาลว่า คดีนี้ทางศาลจะพิจารณายังไง

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.รัตนาธิเบศร์ ได้อายัดรถกระบะคันดังกล่าวไว้พร้อมแจ้ง 2 ข้อกล่าวหากับคนขับรถ คือ ขับรถประมาทน่าหวาดเสียวและขับรถชนแล้วหลบหนี ซึ่งหญิงสาวคนดังกล่าวให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยวันนี้ (7มิ.ย.67) จะนำตัวส่งฟ้องศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.