แม้จะเป็นเกมที่เล่นได้ดี สำหรับทีมชาติไทย แต่น่าเสียดาย ที่จบด้วยการเสมอ จีน 1-1 ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ทำให้สถานการณ์ยังไม่กระเตื้องขึ้น แต่ก็ยังมีโอกาส

และนี่คือ 5 ประเด็นสำคัญ จากเกมที่เสิ่นหยาง

จัดทัพเซอร์ไพรส์

“มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ที่อายุครบ 36 ปี พอดี ในวันที่ 6 มิ.ย. เป็นนักเตะที่น่าจับตามองมากที่สุด เขามีโอกาสลงเล่นในยุค มาซาทาดะ อิชิอิ ครั้งแรก และเป็นกองหน้าที่แฟนบอลฝากความหวัง ส่วนอีกรายคือ “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักเตะที่ถูกทางจีนจับตามองมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม อิชิอิ จัดทัพ กล้าที่จะให้ 2 คนนี้ที่เป็นแกนหลักทีมไทย ลงทุกครั้งถ้าไม่เจ็บ ไปนั่งข้างสนามก่อน พร้อมทำเซอร์ไพรส์ เปลี่ยนจาก 4-2-3-1 มาเล่น 4-4-2 ผู้รักษาประตู ปฏิวัติ คำไหม, แบ๊กซ้าย ธีราทร บุญมาทัน (กัปตันทีม), แบ๊กขวา ศุภนันท์ บุรีรัตน์, เซ็นเตอร์ กฤษดา กาแมน, สุพรรณ ทองสงค์, คู่กองกลาง สารัช อยู่เย็น, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, ริมเส้นซ้าย สุภโชค สารชาติ, ริมเส้นขวา เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, คู่หน้า “ดาวซัลโวไทยลีก 2 สมัย” ศุภชัย ใจเด็ด กับ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา

อ่านข่าว : ลุ้นนัดท้าย! ‘ช้างศึก’นำก่อนแต่โดนจีนตีเสมอสุดมัน ยังมีโอกาสเข้ารอบ

“บุรีรัมย์”คอนเน็คชั่น

ชัดเจนว่า แนวรุกพึ่งความสดจาก บุรีรัมย์(ทั้งอดีตและปัจจุบัน) คอนเน็คชั่น และเน้นความรวดเร็วในการเข้าทำ ทั้งจาก สุภโชค สารชาติ ที่ทะลุทะลวงได้ดีมาก, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่มีจุดเด่นที่วิ่งทำทางได้น่ากลัว พร้อมรับบอลทิ้งยาวจาก “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน ด้วย รวมทั้ง ศุภชัย ใจเด็ด กับ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ก็คล่องแคล่วว่องไว

นี่คือ 3 นักเตะที่เข้าขา รู้ใจ หมุนแทนตำแหน่งกันได้อย่างดี ประตู 1-0 คือตัวอย่าง จากจังหวะตัดบอลในแดนตัวเอง สุภโชค ที่อยู่ซ้าย หุบมาแปะบอลให้ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ที่ไม่เปลี่ยนไปขวา แต่ย้อนกลับมาซ้าย ที่ ศุภชัย ถ่างมารับบอลแล้ว พื้นที่เพียบ ก่อนเปิดให้ สุภโชค ที่ป็นคนตั้งต้น วิ่งจากกลางสนามมาโขกตุงตาข่าย

นี่คือความเฉียบขาด รวดเร็ว การเข้าทำที่จำเป็นต้องมี ยามเมื่อเจอทีมระดับเอเชีย

ล็อกตายแข้งโอนสัญชาติ

เฟ่ย หนานตัว หรือ แฟร์นัน​ดินโญ กับ อา หลัน หรือ อลัน คาวัลโญ นับเป็นนักเตะอันตราย ทะลุทะลวงดี เรายังเห็น แล้วมีหรือ มาซาทาดะ อิชิอิ จะไม่เห็น

กฤษดา กาแมน ที่ใส่สนับก้นมาตลอดในยุค อิชิอิ วันนี้ได้ส่งลงตัวจริงมายืนคู่กับ สุพรรณ ทองสงค์ โดยเจ้าและห์ ลงมาใช้จุดเด่นการอ่านเกม และความคล่องตัวมาหยุดความเร็วคู่แข่ง

ขณะที่แดนกลาง สารัช อยู่เย็น กับ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ เป็นแนวคอนดักเตอร์ คุมจังหวะ เบรกเกมรุกคู่แข่งชั้นแรก เป็นการผสมที่ลงตัวกับแนวรุก ที่เน้นลุยไปแบบสายฟ้าแล่บ

อ่านข่าว : ยังมีโอกาส! เปิดเงื่อนไขช้างศึกลุ้นเข้ารอบ นัดท้ายได้เห็นการบ้านก่อน

พิษสงของมังกร

อย่างไรก็ตาม มังกร ไม่ใช่ไก่กา แม้ครึ่งแรกพวกเขาจะดูมึนๆ แต่ค่อยๆ ยกระดับ และด้วยเสียงเชียร์ 6 หมื่นชีวิตหนุนหลัง จึงสู้ตาย

ส่วนหนึ่งก็เพราะเป็นเกมที่ต่างฝ่ายต่างเปิดหน้าเข้าแลก เพราะต้องการชัยชนะ จีนก็อยากจะเช็กบิลให้จบๆ ไม่ต้องไปลุ้นในเกมสุดท้ายกับเกาหลีใต้ ส่วนไทยถ้าได้แค่เสมอ ยังต้องลุ้นหลายเด้ง

เกมจึงเปิดกว้าง ต่างมีพื้นที่เยอะ

ทีมชาติจีน แม้จะมีตัวโอนสัญชาติมาตะลุยภาคพื้นดิน แต่อย่าลืมว่าจุดเด่นแต่ไหนแต่ไรคือลูกโด่ง อิวาโนวิช เริ่มให้ลูกทีมสลับมาบอมบ์บ้างแล้ว ซึ่งสร้างปัญหาให้แนวรับไทยเห็นๆ แรกๆ พอไหว แต่โดนยักษ์ชนเรื่อยๆก็มียุบ เรียกว่าประเคนมาทั้งความเร็ว และความใหญ่

จนกระทั่งมาโดนตีเสมอจากการโหม่งชง

ต้องชมว่า จากนั้นไทยก็กลับมาสู่เกม ยกระดับขึ้นมาได้อีก ขณะที่จีนก็แลกหมัดสนุก

สิ่งที่น่าเสียดายของไทยคือ ในวันที่เล่นได้ดี มีโอกาสยิงเยอะ แต่เปลี่ยนโอกาสเป็นประตูได้แค่ลูกเดียว

ขณะที่เกมรุกที่เริ่มอย่างปรู๊ดปร๊าด ก็ค่อยๆ อ่อนแรงลง ไม่สามารถเร่งเครื่องได้ตลอดทั้ง 90 นาที

ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นกันไป

คะแนนกลุ่มนี้ เกาหลีใต้ 13 แต้ม เข้ารอบแน่นอนในฐานะแชมป์กลุ่ม, จีน 8 แต้ม กับไทย 5 แต้ม โดยจีนผลต่างประตูได้เสียดีกว่าไทย 3 ลูก (จีน ยิง 9 เสีย 8/ไทย ยิง 6 เสีย 8)

นัดสุดท้าย วันที่ 11 มิ.ย. ทีมชาติไทย พบ สิงคโปร์ ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดช่อง 32,ยูทูบ-เฟซบุ๊ก ช้างศึก

ส่วนอีกคู่ จีน เยือน เกาหลีใต้ เวลาไทย 18.00 น.

โอกาสของจีนดีกว่า นัดสุดท้ายขอแค่มีแต้มจาก เกาหลีใต้ ที่เข้ารอบแล้ว ทีมมังกรจะฉลุยตาม

ส่วนไทยนั้น นอกจากต้องชนะสิงคโปร์ ยังต้องลุ้นให้เกาหลีใต้ ชนะจีน แล้วต้องผลต่างประตูที่เพียงพอกับที่ตอนนี้เสียเปรียบอยู่ 3 ประตู

เกมของ เกาหลีใต้ กับ จีน เตะก่อนไทย 1ชั่วโมงครึ่ง ทำให้ไทยจะเห็นการบ้านก่อน หากเกาหลีใต้ชนะจีนได้ อย่างน้อยผลต่างประตูได้เสียจะลดลงเหลือตามแค่ 2 ลูก ก็ถือว่าได้ลุ้นทีเดียว ที่ไทยจะยิงสิงคโปร์ 2 ลูกขึ้นไป

หรือเอาให้ดี เกาหลีใต้ ชนะจนสัก 3 ประตู งานของไทยก็จะเบาทันที

ก็ถือว่ายังเป็นไปได้ แม้จะลำบากก็ตาม ก็ยังดีกว่าตายไปแล้ว

รวมพลังแล้วสู้กันต่อ วันที่ 11 มิ.ย.นี้

ทำให้เต็มที่ อะไรจะเกิดก็ยอมรับผลไปด้วยกัน.

*** วุฒินล ***