เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ในโลกโซเชียลได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ann vezalove โพสต์คลิปเหตุการณ์ปะทะคารมระหว่างญาติผู้ป่วยกับทีมกู้ชีพกู้ภัย และข้อความลงในกลุ่ม พัทยา ระบุเกี่ยวกับพี่ชายที่ป่วยไม่สบายเคลื่อนไหวเองไม่ได้ ขาขวาบวมใหญ่ผิดรูปเลยจะพาไปหาหมอ บ้านเราอยู่ซอย 13 นาเกลือ แต่ไม่รู้จะทำยังไง เมื่อติดต่อ 1669 ที่แรกก็จะไม่มารับ แล้วเขาก็ให้เบอร์กู้ภัยมา เมื่อโทรติดต่อเขามาที่บ้านแต่ไม่กล้าเข้ามารับผู้ป่วยในบ้านชั้นสอง เพราะข้างล่างมีหมาจรที่แม่เราเลี้ยงไว้ อ้างว่ากลัวสุนัขกัด ทิ้งผู้ป่วยให้นอนรอความตายอยู่บนห้อง

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของผู้ป่วยรายนี้ ซึ่งบ้านเป็นลักษณะบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ตั้งอยู่ภายในซอยนาเกลือ 13 หมู่ 2 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ห่างจากรพ.บางละมุง ไม่ถึง 1 กม. โดยพบว่าภายในบ้านมีเสียงสุนัขเห่าส่งเสียงดังลั่นออกมา ที่ประตูหน้าทางเข้าบ้านมีแผ่นกระดาษขนาด เอ 4 ติดแปะไว้ที่แผ่นประตู ระบุข้อความว่า “หมาดุมาก ห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต” ส่วนผู้ป่วยที่เป็นกระแสดราม่ายังนอนอยู่บริเวณห้องพักชั้น 2

นางสาวอุ้ม (นามสมมุติ) อายุ 55 ปี แม่ของผู้ป่วย และเป็นแม่ของผู้ที่โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาลูกสาวได้กลับจากที่ทำงานได้เข้ามาบ่นกับตนว่า ทำไมไม่ดูพี่ชาย ซึ่งนอนขยับตัวไม่ได้ อยู่บนบ้านชั้น 2 มาแล้วหลายวัน โดยลูกชาย อายุ 32 ปี ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับเรื่องเลือด “โรคฮีโมฟีเลีย“ หรือ โรคเลือดออกง่าย จนขาทั้ง 2 ข้างใช้การไม่ได้ โดยปกติแล้วแม่กับพ่อจะพาลูกชายไปหาหมอเอง แต่ครั้งนี้คิดว่าอุ้มไม่ไหวจึงโทรศัพท์ไป 1669 แต่ถูกทางปลายสายปฏิเสธ โดยบอกว่าไม่ใช่เคสฉุกเฉิน พร้อมทั้งให้เบอร์โทรศัพท์ซึ่งเป็นเบอร์ ของมูลนิธิกู้ภัยแห่งหนึ่ง

พอโทรศัพท์ไปแจ้งเบอร์ดังกล่าวไม่เกิน 10 นาที ก็มีรถพยาบาลมาจอดบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งเป็นรถพยาบาลของมูลนิธิกู้ภัยแห่งหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งกับตนว่าให้ช่วยเก็บหมาที่อยู่ภายในบ้าน เพราะเจ้าหน้าที่ไม่กล้าเข้าไปเนื่องจากเกรงว่าไม่ปลอดภัย พอตนเองเก็บหมาเสร็จเจ้าหน้าที่ก็เดินเข้าไปในบ้าน สักพักก็เดินกลับออกมาพร้อมกับปฏิเสธไม่รับผู้ป่วย โดยใช้เหตุผลว่ายังมีสุนัขอยู่ใต้บันไดและเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจนเกิดเหตุการณ์ปะทะคารมระหว่างลูกสาวกับกู้ภัยฯ ตามที่ปรากฏในคลิป จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ก็เดินทางกลับไปทันที

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองเข้าใจและไม่ได้โกรธทีมกู้ภัยฯ เพราะเข้าใจเหตุผลว่าพื้นที่ไม่ปลอดภัย และเกรงว่าจะเกิดอันตรายในระหว่างการเคลื่อนย้าย ส่วนทางด้านลูกสาวที่นำคลิปไปโพสต์ ตนเองก็เข้าใจอารมณ์ลูกสาวที่เป็นห่วงพี่ชาย เพราะอยากให้พี่ชายได้ไปหาหมอ ส่วนสุนัขที่เลี้ยงไว้ ยอมรับว่าเป็นสุนัขที่เก็บมาเลี้ยง มีทั้งหมด 21 ตัว

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ที่ปรากฏในคลิป คือ นายวิวัฒน์ ชีวะโอสถ อายุ 42 ปี พร้อมกับเปิดใจว่า ในเหตุการณ์นี้ตนเองพยายามปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากสถานที่ค่อนข้างที่จะไม่ปลอดภัย เพราะภายในบ้านมีสุนัขจรจัดหลายตัวจึงพยายามบอกให้เจ้าของบ้านนำสุนัขเข้าไปไว้ในห้องก่อนระหว่างที่กำลังเดินเข้าไปภายในบ้าน แต่พอเดินเข้าไปในบ้านก็พบว่ามีสุนัขจำนวน 5 ตัวอยู่ใต้บันได ตอนนั้นตกใจมากจึงถอยออกมา และพยายามอธิบายให้ทางญาติๆ ว่าสถานที่ไม่ปลอดภัย รวมถึงสุนัขอาจทำอันตรายกับเจ้าหน้าที่ได้ แต่ปรากฏว่าทางญาติได้ถ่ายคลิปและเกิดการปะทะคารมดังกล่าวลงในโซเชียล

โดยขอยืนยันว่า ตนเองและทีมงานปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่เสมอ ซึ่งหลังเกิดเหตุได้แจ้งกลับไปทางศูนย์สั่งการว่าไม่สามารถปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ป่วยได้ เนื่องจากสถานที่ไม่ปลอดภัย ก่อนจะได้รับคำสั่งให้ถอนกำลังกลับมายังฐานปฏิบัติ แต่ไม่คิดว่าทางญาติผู้ป่วยจะนำคลิปไปโพสต์ จึงอยากให้ทางญาติและประชาชนเข้าใจในการทำหน้าที่ของทีมกู้ชีพกู้ภัย เพราะไม่มีใครอยากปฏิเสธการช่วยเหลือ แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ประเมินสถานการณ์แล้วค่อนข้างมีความเสี่ยงจึงจำเป็นต้องยกเลิกภารกิจ.