หลังจากผู้โดยสารสาวของสายการบินสปิริตสามารถติดตามร่องรอยของกระเป๋าเดินทางของเธอที่หายไปจนเจอตำแหน่งว่าอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ตำรวจจากเขตโบรเวิร์ดเคาน์ตี รัฐฟลอริดา ก็จับกุม จูเนียร์ จีเนียส บาซิล วัย 29 ปี ผู้ต้องสงสัยชายซึ่งพักที่บ้านหลังนั้นและเป็นพนักงานประจำสนามบิน พร้อมทั้งข้อหาโจรกรรมร้ายแรงระดับ 3 เมื่อไม่กี่วันก่อน

ผู้เสียหายคือ เปาลา การ์เซีย เธอมีกำหนดการเดินทางไปกับสายการบินสปิริตจากสนามบินนานาชาติฟอร์ต ลอเดอร์เดล-ฮอลลีวูด ในฟลอริดา เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2567 แต่ทางสายการบินได้ยกเลิกเที่ยวบินและแจ้งให้ผู้โดยสารไปรับกระเป๋าเดินทางคืนที่สายพานส่งกระเป๋าเทอร์มินัล 4 

แต่เมื่อเธอไปรอรับกระเป๋าก็พบว่ากระเป๋าเดินทางสีชมพูของเธอหายไป ทั้งนี้ภายในกระเป๋ามีอุปกรณ์และของมีค่าหลายชิ้น เช่น แม็คบุ๊ก, ไอแพด, แอปเปิลวอตช์, เสื้อผ้าแบรนด์เนมและเครื่องประดับมีค่า

การ์เซีย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่าทางสายการบินแจ้งว่าจะส่งกระเป๋าเดินทางของเธอไปให้ที่บ้านในภายหลัง แต่เธอก็ไม่เห็นแม้แต่เงา เธอจึงตัดสินใจตามหากระเป๋าโดยใช้วิธีแกะรอยจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในกระเป๋า ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าผลิตภัณฑ์แบรนด์แอปเปิลนั้น มีฟังก์ชันและแอปช่วยติดตามตำแหน่งอุปกรณ์

การ์เซีย แกะรอยจนเจอตำแหน่งอุปกรณ์ของเธอที่อยู่ในกระเป๋าเดินทาง ซึ่งปรากฏว่ามันอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในฟอร์ต ลอเดอร์เดล

หญิงสาวตัดสินใจเดินทางไปยังที่อยู่ที่เธอพบว่าเป็นตำแหน่งที่เก็บอุปกรณ์ของเธอไว้ เพื่อขอของคืน แต่ไม่สามารถติดต่อคนในบ้านได้ เธอจึงถ่ายทั้งภาพนิ่งและคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน โดยระหว่างนั้นเธอก็มองเห็นชิ้นส่วนของกระเป๋าเดินทางหลายชิ้นอยู่ตรงหน้าบ้าน แต่ดูไม่เหมือนกระเป๋าเดินทางของเธอ

หลังจากนั้น การ์เซีย ก็โทรศัพท์แจ้งเหตุฉุกเฉินไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทำให้เธอโดนเจ้าหน้าที่ตำหนิว่าไม่ควรไปยังบ้านหลังนั้นด้วยตัวเอง เพราะเป็นการเสี่ยงอันตรายมาก

ทีมสืบสวนจากสำนักงานนายอำเภอโบรเวิร์ดเคาน์ตีรับแจ้งเหตุและค้นหาที่อยู่บ้านหลังที่ การ์เซีย แจ้งไปว่าอาจมีทรัพย์สินของเธออยู่ข้างในจากฐานข้อมูลพนักงานประจำสนามบินจนพบว่า บาซิล พักอยู่ที่บ้านหลังนั้น โดยเขาเป็นพนักงานของร้านค้าปลีก Paradies Lagardère Travel Retail ในสนามบินและมีบันทึกว่าเขาเข้าทำงานในวันที่กระเป๋าเดินทางของการ์เซียหายไป

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อไปยังแผนกป้องกันทรัพย์สินสูญหายของทางร้าน ผู้จัดการก็ได้นำคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดในช่วงวันที่เกิดเหตุมาให้ตรวจสอบ ซึ่งมีภาพของบาซิลเข้าไปในห้องเก็บของของทางร้านพร้อมกับกระเป๋าเดินทางสีชมพู จากนั้นก็เปิดกระเป๋าและค้นข้าวของในนั้น หยิบเอาแม็คบุ๊กและทรัพย์สินชิ้นเล็กอีกหลายชิ้นออกมาจากกระเป๋า แล้วนำไปใส่ถุงอีกใบหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยว่า บาซิลที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการขนย้ายกระเป๋าเดินทางของผู้โดยสาร สามารถเข้าถึงและขโมยกระเป๋าของการ์เซียออกมาได้อย่างไร

แม้จะโดนจับกุมและตั้งข้อหา แต่บาซิลไม่ยอมรับผิด พร้อมทั้งขอประกันตัวในวงเงิน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.09 ล้านบาท) โดยมีกำหนดการขึ้นศาลในวันที่ 23 ส.ค. 2567

ด้านสายการบินสปิริตแถลงว่า ไม่พบหลักฐานว่าการขโมยครั้งนี้เกี่ยวข้องกับพนักงานของสายการบิน พร้อมทั้งเสนอค่าชดเชยให้การ์เซียเนื่องจากกระเป๋าเดินทางของเธอโดนขโมยไปเพื่อเป็นการปลอบขวัญ

ที่มา : wesh.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES