เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย โพสต์แถลงการณ์ชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล  ‘9 มิถุนา ทวงสิทธิกัญชาสู่ประชาชน’ โดยระบุ 3 ข้อเสนอต่อรัฐบาลดังนี้ 1.สังคมตกผลึกร่วมกันว่ากัญชานั้นต้องควบคุม แต่จะควบคุมโดยกฎหมายแบบใดให้ใช้ข้อเท็จจริงเป็นสิ่งกำหนด เราเสนอให้ตั้งกรรมการร่วมเพื่อสำรวจวิจัยจนปรากฏข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านแก่สาธารณะและให้ใช้ข้อเท็จจริงนั้นเป็นสิ่งกำหนดว่ากัญชาควรควบคุมโดยกฎหมายยาเสพติดหรือกฎหมายพระราชบัญญัติกัญชา

2.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขปฏิเสธข้อเสนอ เพราะรัฐบาลมีธงอยู่แล้วว่าต้องเอากลับไปสู่การเป็นยาเสพติด ทั้งนี้เพราะสามารถกำหนดกติกาเฉพาะให้คนกลุ่มเดียวปลูกกัญชาได้ซึ่งจะนำไปสู่การครอบครองมูลค่าการตลาดหลายหมื่นล้านบาท อีกทั้งประมวลกฎหมายยาเสพติดไม่สามารถออกแบบกลไกคุ้มครองเยาวชนและผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากหวังดีกับเยาวชนจริงรัฐบาลนี้คงไม่ปล่อยนโยบายยาบ้า 5 เม็ดออกมา และถ้ากัญชาร้ายจริงทำไมพรรคเพื่อไทยเพิ่งมากลับลำ ตอนที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรัฐมนตรี ในขณะที่สมัยรัฐมนตรี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว กัญชายังไม่เป็นยาเสพติด แค่เปลี่ยนรัฐมนตรี 7 วัน กัญชาเปลี่ยนสถานะทันที ทั้งหมดนี้ย่อมทราบว่ามันคือเกมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในการควบคุมกัญชาให้กลุ่มทุน

3.การควบคุมโดย พ.ร.บ.กัญชาซึ่งเป็นกฎหมายเฉพาะที่สามารถออกแบบกลไกการควบคุมเชิงระบบ ‘นำข้อดีมาใช้และควบคุมข้อเสีย’ กฎหมาย พ.ร.บ.จะสามารถกำหนดไม่ให้นำกัญชาไปสู่การผูกขาดแก่ผู้ใด อีกทั้งยังสร้างกลไกการคุ้มครองเยาวชนและบุคคลอื่นที่กฎหมายต้องการคุ้มครองได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสามารถออกแบบกลไกเพื่อรองรับปัญหาใหม่ที่อาจเกิดขึ้นโดยมิได้คาดหมายมาก่อน กลไกแบบนี้มันผูกขาดไม่ได้พรรคเพื่อไทยจึงไม่ชอบ สาธารณะโปรดพิจารณาว่าวิธีการทำนโยบายของพรรคเพื่อไทยได้ว่าที่ผ่านมาและในอนาคต มีนโยบายใดบ้างที่ไม่เอื้อกับกลุ่มทุน

นายประสิทธิ์ชัย กล่าวว่า ประเทศนี้ไม่เคยใช้ข้อเท็จจริงในการกำหนดนโยบายสาธารณะ กิจการใดก็ตามที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจจะเกิดการรวมหัวกันระหว่างนักการเมือง ข้าราชการ กลุ่มทุน ออกกฎหมายให้เกิดการผูกขาดเสมอ นับแต่นี้หากกัญชาเป็นยาเสพติดประชาชนต้องหอบต้นกัญชาที่ปลูกทำยาวิ่งหนีตำรวจกันแบบที่เคยเป็น และที่ถูกจับจะเป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่ใช่ของนายทุนใหญ่เหตุการณ์แบบนี้จะวนเวียนมาอีกรอบ สมุนไพรต้นหนึ่งที่ใช้รักษาคนมานับพันปี วันหนึ่งรัฐมาทำตัวเป็นเจ้าของและสร้างมาตรการกีดกันการฟื้นภูมิปัญญาในการรักษาของประชาชน

“เราทำทุกอย่างแล้ว เพื่อให้รัฐใช้ข้อเท็จจริงในการกำหนดนโยบาย แต่รัฐมีใบสั่งให้เอากัญชาไปสู่มือกลุ่มทุน หน้าที่ของประชาชนจึงต้องใช้หัวใจและฝ่าเท้ามารวมกันเพื่อให้รัฐบาลทำสิ่งที่ถูกต้อง วันที่ 9 มิถุนา เชิญทุกท่านมาร่วมกันเวลา 13.00 น. หน้าสำนักงานสหประชาชาติเพื่อแถลงการณ์การการชุมนุมและเคลื่อนขบวนสู่ทำเนียบรัฐบาลเวลา 15.00 น. เพื่อสร้างประวัติศาสตร์กัญชาไทยให้กลับสู่สิทธิของประชาชน” นายประสิทธิ์ชัย กล่าว