สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ว่าเอจีซีเอ็มสั่งปรับเมตาเป็นเงิน 3.5 ล้านยูโร อันเป็นผลมาจาก “แนวปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม” เนื่องจากขาดความโปร่งใสในการใช้ และจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบัญชีอินสตาแกรมและเฟซบุ๊ก

“เมตาล้มเหลวในการแจ้งเตือนให้ผู้ใช้อินสตาแกรมทราบถึงนโยบายการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้าทันทีที่สมัคร” และกล่าวหาเมตาว่า ระงับบัญชีเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมอย่างไม่ถูกต้อง “เมตาไม่ได้ระบุว่าพวกเขาใช้อะไรในการตัดสินระงับบัญชีเฟซบุ๊ก เช่น ระบบตรวจสอบอัตโนมัติ หรือมนุษย์”

มากไปกว่านั้น เมตาไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการอุทธรณ์เมื่อถูกระงับบัญชีเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม, การใช้อำนาจของหน่วยงานระงับข้อพิพาทนอกศาล หรือผู้พิพากษา และกำหนดเส้นตายในการโต้แย้งเพียง 30 วัน เจ้าหน้าที่ระบุว่า เมตาได้เปลี่ยนแนวทางปฏิบัติหลังเอจีซีเอ็มเริ่มสอบสวน

อย่างไรก็ตาม เมตาได้ชี้แจงในแถลงการณ์ว่า พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจดังกล่าว และกำลังพิจารณาถึงทางเลือกอื่น ๆ “ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 เราได้ดำเนินการปรับปรุงนโยบายหลายรายการสำหรับผู้ใช้ชาวอิตาลี เพื่อตอบสนองต่อข้อกังวลของรัฐบาล” รวมไปถึงความโปร่งใสเกี่ยวกับ “วิธีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการโฆษณา และได้ให้ข้อมูลและแนวทางเพิ่มเติมแก่ผู้ใช้ที่ต้องการอุทธรณ์การระงับบัญชี”

ทั้งนี้ เมตาย้ำว่า “เรายินดีที่จะให้ผู้มีอำนาจรับทราบถึงประสิทธิภาพของเครื่องมือของเมตา ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบัญชีของตัวเองได้อีกครั้ง”.

เครดิตภาพ : AFP