“กระทิงดุ” สเปน อีกหนึ่งทีมยักษ์ใหญ่ ที่เถลิงแชมป์ ยุโรปมาแล้ว 3 ครั้ง ในปี 1964 (ที่สเปน), 2008 (ที่ออสเตรีย – สวิสเซอร์แลนด์) และ 2012 (ที่โปแลนด์ – ยูเครน)

ถึงแม้มาครั้งนี้ ทัพกระทิงดุอาจจะไม่ใช่ทีมเต็งที่จะคว้าแชมป์ ด้วยการที่พวกเขาต้องยกเครื่องทีมครั้งใหญ่ รวมถึงมีการปรับเปลี่ยนในตำแหน่งเฮดโค้ช แต่เมื่อดูจากผลงานในรอบคัดเลือก ต้องบอกว่า “ลา โรฆา” ยุคใหม่ ก็ไฉไลไม่น้อยทีเดียว

ผลงาน
ยูโร 2020 : รอบรองชนะเลิศ พ่ายการดวลจุดโทษแก่ทีมชาติอิตาลี (หลังเสมอในเวลา 1 – 1 )
ฟุตบอลโลก 2022 : รอบ 16 ทีมสุดท้าย พ่ายการดวลจุดโทษให้กับทีมชาติโมร็อกโก 0 – 3 (หลังเสมอในเวลา 0 – 0 )

รอบคัดเลือกยูโร 2024
ทีมชาติสเปนคว้าโควตาเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม ยูโร 2024 ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม ชนะ 7 แพ้ 1 ซัดไป 25 เสียเพียง 5 ประตู ผ่านรอบคัดเลือกในฐานะแชมป์ ของกลุ่ม A

Luis de la Fuente

ผู้จัดการทีม
“หลุยส์ เด ลา ฟูเอนเต” กุนซือมากประสบการณ์ชาวสเปน วัย 62 ปี

ผ่านการคุมทีมชาติสเปนตั้งแต่ ยู-18, ยู-19 จนถึง ยู-21 จนได้รับโอกาสครั้งสำคัญจากสหพันธ์ฟุตบอลสเปน (อาร์เอฟอีเอฟ) ในการคุมทีมชาติชุดใหญ่ หลังจากแยกทางกับ “หลุยส์ เอนริเก” กุนซือคนเก่าที่พาทัพ “ลาโรฆา” เดินไปสุดเส้นทางแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลก 2022

กุนซือชาวสแปนิช ประเดิมการคุมทีมนัดแรกในการเปิดหัว ศึกฟุตบอลยูโร 2024 รอบคัดเลือกได้อย่างสวยงาม พาทีมเปิดบ้านเอาชนะทีมชาติ นอร์เวย์ 3 – 0 ก่อนนำ สเปน คว้าชัย 7 จาก 8 นัด กรุยทางสู่รอบสุดท้ายที่เยอรมนีอย่างไม่ยากเย็น

ด้วยระบบการเล่นหลัก 4-3-3 ที่เป็นดีเอ็นเอ แต่สิ่งที่น่าชื่นชม คือ กุนซือรายนี้สามารถไขเกมรับ ลา โรฆา ที่เป็นจุดอ่อนในช่วงหลังให้เหนียวแน่นขึ้นได้ ผลลัพธ์ที่ออกมา คือ ทีมเสียประตูน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

ไล่เรียงผลงานส่วนตัวของกุนซือรายนี้ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะ เคยพากระทิงชุดเล็ก ยู-19 และ ยู-21 ไปถึงแชมป์ ยุโรปมาแล้ว

ผลงานล่าสุดหลังจากคุมทีมชาติชุดใหญ่ คือ การพาสเปนคว้าแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกฤดูกาล 2022/23

Rodri

นักเตะที่น่าจับตามอง
“โรดรี”
ติดทีมชาติชุดใหญ่ : 70 นัด (2018 – ปัจจุบัน)
กองกลางตัวรับวัย 27 ปี รายนี้ นอกเหนือจากจุดเด่นในด้านร่างกายที่แข็งแกร่ง ยังเป็นผู้เล่นที่สามารถส่งบอลได้อย่างชาญฉลาด มาพร้อมเทคนิกในการจบสกอร์นอกกรอบเขตโทษที่ยอดเยี่ยม

เจ้าตัวซัดไปแล้ว 7 ประตู กับ 11 แอสซิสต์ จากการลงเล่นทุกรายการกับสโมสรต้นสังกัดอย่าง “แมนเชสเตอร์ ซิตี”

มิดฟิลด์รายนี้ถือเป็นหัวใจแดนกลางของทัพกระทิงดุในยุคนี้เลยก็ว่าได้ เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นสำคัญที่พาสเปนคว้าแชมป์เนชั่นส์ ลีก

Dani Olmo

“ดานี โอลโม”
ติดทีมชาติชุดใหญ่ : 38 นัด (2021 – ปัจจุบัน)
ตัวรุกสารพัดประโยชน์วัย 25 ปี จากสโมสร “แอร์เบ ไลป์ ซิก” เริ่มต้นซีซันได้อย่างเร้าใจด้วยการซัดแฮตทริกใส่ทีมดังอย่าง บาเยิร์น มิวนิก ในนัดชิงชนะเลิศ “เดเอฟแอล ซูเปอร์คัพ” พาต้นสังกัดคว้าเกียรติยศได้สำเร็จ

ถึงแม้หลังจากนั้นเจ้าตัวจะมีปัญหาอาการบาดเจ็บ ต้องพักการลงสนามร่วม 3 เดือน แต่ผลงานโดยรวมของเจ้าตัวไม่ธรรมดา เพราะ ยิงและจ่ายรวม 11 ประตู จากการลงเล่น 19 นัด

โอลโม ทะลวงตาข่ายให้กับทัพกระทิงดุได้ทันทีหลังจากลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมที่เสมอทีมชาติบราซิล 3 – 3 ในเกมอุ่นเครื่อง

สเปน ชุดนี้ยังอุดมไปด้วยนักเตะดาวรุ่งชื่อดังอย่าง ลามีน ยามาล, เปดรี, นีโก วิลเลียมส์, ฟราน การ์เซีย, เฟร์ราน ตอร์เรส ที่จะผนึกกำลังกับนักเตะตัวเก๋า อย่าง อัลบาโร โมราตา, เคราร์ด โมเรโน, ดานี การ์บาฆาล, อายเมอริก ลาปอร์กต์ และ มิเกล โอยาซาบาล

โอกาสเข้ารอบ
ทีมชาติสเปน อยู่ใน “กรุ๊ป ออฟ เดธ” กลุ่ม B ร่วมกับ โครเอเชีย, อิตาลี และแอลเบเนีย ซึ่งหนักสุดๆ

แต่ว่ากันตามตรง ถ้ามองจากขุมกำลังทัพกระทิงดุชุดนี้ ยังถือว่าเป็นตัวเต็งที่จะผ่านเข้ารอบ แต่จะง่ายหรือยากอย่างไรขึ้นอยู่กับเกมนัดแรก ที่จะเจอศึกหนักกับทีมชาติโครเอเชีย

หากขุนพล “ลา โรฆา” เก็บชัยชนะได้ ก็มีโอกาสจะผ่านเข้ารอบสูง ถ้าหากเสมอ ก็จำเป็นจะต้องควานหาชัยชนะให้ได้โดยเร็ว

ส่วนจะไปได้ไกลแค่ไหน ตอนนี้ ยังไม่ต้องคิด เอาเป็นว่ามีสมาธิแบบนัดต่อนัดก็พอ ซึ่งก็ไม่แน่เหมือนกันว่า เห็นเงียบๆ เรื่อยๆ มาเรียงๆแบบนี้ สเปน อาจจะโผล่ขึ้นมาเข้ารอบลึกๆก็เป็นได้

โปรแกรมการแข่งขัน
วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน เวลา 23.00 น. : ทีมชาติโครเอเชีย
วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน เวลา 03.00 น. : ทีมชาติอิตาลี
วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน เวลา 03.00 น. : ทีมชาติแอลเบเนีย