ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567 ได้มีมติสนับสนุนให้ท่องเที่ยวเมืองรองของไทยเป็น “มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรอง 2567” ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม-30 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งเป็นช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว (Low Season) โดยมี 2 มาตรการหลัก คือ 1.มาตรการภาษีกระตุ้นสัมมนาในประเทศ (สำหรับนิติบุคคล) และ 2.มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรอง (สำหรับบุคคลธรรมดา)

เปิดจังหวัดทั่วไทย “ท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด” ปี 2567 มีดังนี้

จังหวัดเมืองรองภาคเหนือ 16 จังหวัด

  • เชียงราย
  • พิษณุโลก
  • ตาก
  • เพชรบูรณ์
  • นครสวรรค์
  • สุโขทัย
  • ลำพูน
  • อุตรดิตถ์
  • ลำปาง
  • แม่ฮ่องสอน
  • พิจิตร
  • แพร่
  • น่าน
  • กำแพงเพชร
  • อุทัยธานี
  • พะเยา

จังหวัดเมืองรองภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 จังหวัด

  • อุดรธานี
  • อุบลราชธานี
  • หนองคาย
  • เลย
  • มุกดาหาร
  • บุรีรัมย์
  • ชัยภูมิ
  • ศรีสะเกษ
  • สุรินทร์
  • สกลนคร
  • นครพนม
  • ร้อยเอ็ด
  • มหาสารคาม
  • บึงกาฬ
  • กาฬสินธุ์
  • ยโสธร
  • หนองบัวลำภู
  • อำนาจเจริญ

จังหวัดเมืองรองภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก 12 จังหวัด

  • ลพบุรี
  • สุพรรณบุรี
  • นครนายก
  • สระแก้ว
  • ตราด
  • จันทบุรี
  • ราชบุรี
  • สมุทรสงคราม
  • ปราจีนบุรี
  • ชัยนาท
  • อ่างทอง
  • สิงห์บุรี

จังหวัดเมืองรองภาคใต้ 9 จังหวัด

  • นครศรีธรรมราช
  • พัทลุง
  • ตรัง
  • สตูล
  • ชุมพร
  • ระนอง
  • นราธิวาส
  • ยะลา
  • ปัตตานี

สำหรับรายละเอียด เงื่อนไข “มาตรการภาษีท่องเที่ยวจังหวัดเมืองรอง 2567” หักลดหย่อนภาษีทั้งนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา

1. มาตรการภาษีกระตุ้นสัมมนาในประเทศ (สำหรับนิติบุคคล)

  • นิติบุคคลสามารถนำรายจ่ายค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องในการอบรมสัมมนาภายในประเทศที่จัดขึ้นให้แก่ลูกจ้าง หรือค่าบริการของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวเพื่อการอบรมสัมมนาดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม-30 พฤศจิกายน 2567 หักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล ดังนี้

1.1 หักรายจ่ายได้ 2 เท่า สำหรับการอบรมสัมมนาที่จัดใน “จังหวัดท่องเที่ยวรอง” หรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
1.2 หักรายจ่ายได้ 1.5 เท่า สำหรับการอบรมสัมมนาที่จัดในท้องที่อื่นนอกจากท้องที่ตามข้อ 1.1
1.3 ในกรณีที่การสัมมนาเกิดขึ้นในท้องที่ตามข้อ 1.1 และข้อ 1.2 ต่อเนื่องกัน ให้หักรายจ่ายที่สามารถแยกได้ว่าเกิดขึ้นในท้องที่ใดตามข้อ 1.1 หรือข้อ 1.2 และถ้าแยกไม่ได้ให้หัก 1.5 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง

2. มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรอง (สำหรับบุคคลธรรมดา)

  • บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าบริการที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว หรือที่ได้จ่ายเป็นค่าที่พักในโรงแรม ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทยหรือค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวใน “จังหวัดท่องเที่ยวรอง” ได้ตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 15,000 บาท หักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม-30 พฤศจิกายน 2567

เงื่อนไขสำคัญ “มาตรการภาษีท่องเที่ยวจังหวัดเมืองรอง 2567” ต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt)

ที่มา : กรมสรรพากร, มติ ครม. (ณ 4 มิ.ย. 67) รวบรวมโดย “เดลินิวส์” ณ วันที่ 6 มิ.ย. 67