ภาพหนึ่งซึ่งกลายเป็นที่ชินตาของคนที่เดินทางด้วยเครื่องบินเป็นประจำขณะขึ้นเครื่องก็คือ พนักงานต้อนรับประจำเที่ยวบินมายืนรอกล่าวคำต้อนรับและทักทายผู้โดยสารทุกคนอยู่ตรงประตูทางเข้า
แต่นอกเหนือจากจะเป็นการแสดงความสุภาพแล้ว ยังมีเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังนโยบายที่กำหนดให้พนักงานมาคอยทักทายผู้โดยสารเช่นนี้
“ราเนีย” พนักงานต้อนรับสาวบนเครื่องบินจากสายการบินแถบยุโรปซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีผู้ใช้ “ติ๊กต็อก” ในชื่อว่า “itsmekikooooo” เป็นผู้ออกมาเฉลยเบื้องหลังการทักทายตามมารยาทบนเครื่องบินบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดัง
ราเนียอธิบายว่านอกเหนือจากเป็นการกระทำตามมารยาทแล้ว การทักทายผู้โดยสาร “ทุกคน” ยังเป็น “หน้าที่” อย่างหนึ่งของลูกเรืออย่างพวกเธอ
ระหว่างที่พนักงานต้อนรับทักทายผู้โดยสารแต่ละคนนั้น เขาหรือเธอจะต้องสังเกตและวิเคราะห์ข้อมูลอื่น ๆ ไปด้วย โดยประการแรกคือการตรวจสอบจากกิริยาท่าทางว่าผู้โดยสารนั้นมีอาการป่วยหนักหรือมีท่าทางมึนเมาเกินไปจนไม่สมควรเดินทางหรือไม่
ประการต่อมาคือการเก็บข้อมูลว่า ผู้โดยสารคนไหนที่มีแววว่าจะสามารถเป็นผู้ช่วยของลูกเรือได้ในยามเกิดเหตุฉุกเฉิน
เมื่อมาถึงจุดนี้ บรรดาผู้ชมที่ได้ชมคลิปวิดีโอของราเนียก็แสดงความเห็นด้วยหลายราย รวมถึงแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัว โดยมีชาวติ๊กต็อกรายหนึ่งเล่าว่าตอนที่เขาขึ้นเครื่องบินจากเกาะคอร์ฟู ประเทศกรีซ เขากำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งตับอ่อน แต่ต้องแสดงท่าทางเหมือนคนที่สบายดีและแข็งแรง ไม่เช่นนั้นก็คงจะไม่ได้ขึ้นเครื่องบิน
ส่วนผู้ชมอีกรายที่ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเช่นกันก็เข้ามาแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า “พวกเราจะคอยมองหาคนที่ไม่มีปัญหาในการเคลื่อนไหวร่างกาย พูดภาษาอังกฤษได้ และดูมีทีท่าว่าจะสามารถช่วยเราเปิดประตูเครื่องบินได้ พร้อมทั้งเป็นผู้โดยสารที่เดินทางตามลำพัง ซึ่งจะเรียกว่าเป็น ABP (Able-Bodied Person)” กล่าวคือเป็นผู้โดยสารที่สามารถช่วยเหลือลูกเรือในการอพยพผู้โดยสารบนเครื่องบินในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นระหว่างทาง
ที่มา : ladbible.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES