เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 67 ที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี นายแพทย์ธีรพงษ์ ตุนาค ผู้อำนวยการ พร้อมทีมหมอศัลยแพทย์ พระปกเกล้าฯ และ ศิริราช ร่วมทำภารกิจผ่าตัดและเคลื่อนย้ายอวัยวะสำคัญจากผู้บริจาคไปยังโรงพยาบาลศิริราช เพื่อปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วย โดยในภารกิจเคลื่อนย้ายอวัยวะทางรถยนต์ครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุน จากตำรวจทางหลวง ตำรวจภูธรจันทบุรี เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย ตลอดจนทีมศัลยแพทย์ โรงพยาบาลศิริราช คอยจัดการจราจรอำนวยความสะดวกตลอดจนระยะทาง และส่งต่อช่วงผ่านแต่ละจังหวัด

โดยภารกิจเคลื่อนย้ายอวัยวะครั้งนี้ ประกอบด้วย หัวใจ ไต และดวงตา มีขบวนรถตำรวจทางหลวง สถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 3 จันทบุรี / รถฉุกเฉินทีมศัลยแพทย์ โรงพยาบาลศิริราช / รถฉุกเฉินกู้ชีพกู้ภัยฯ ออกจากโรงพยาบาลพระปกเกล้า จากนั้นตำรวจทางหลวงในแต่ละพื้นที่ รับช่วงนำขบวน ตามเส้นทาง ทล.3 เข้า ทล.344 ต่อเนื่อง มอเตอร์เวย์ (ทล.7) ด่านบ้านบึง มุ่งหน้าทางพิเศษศรีรัช ลงยมราช ซึ่งเมื่อเข้าเขต กรุงเทพฯ จะมี จราจรโครงการพระราชดำริ บก.จร. นำขบวนสู่ ตึกสยามมินทร์ โรงพยาบาลศิริราช ต่อไป

นพ.ธีรพงษ์ เปิดเผยว่า ภารกิจในการเคลื่อนย้ายหัวใจครั้งนี้ได้รับการบริจาคอวัยวะผ่านสภากาชาดไทย โดยผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลขลุง จันทบุรี ก่อนจะส่งตัวมาที่ โรงพยาบาลพระปกเกล้า เนื่องจากสมองได้รับการกระทบกระเทือนจากการตกหลังคา เมื่อบ่ายวันที่ 2 มิ.ย. ซึ่งทางทีมแพทย์ ได้ทำการรักษาอย่างเต็มความสามารถ แต่มีภาวะสมองตายเมื่อเช้าวันที่ 4 มิ.ย. และทางญาติจึงประสงค์บริจาคอวัยวะ ต่อมาทางพระปกเกล้า ได้ติดต่อไปยังสภากาชาดไทย จึงได้ส่งทีมศัลยแพทย์ จากโรงพยาบาลศิริราช พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์มาทำการผ่าตัดเก็บอวัยวะ ประกอบด้วย หัวใจ / ไต ทั้ง 2 ข้าง / กระจกตา 4 ดวง ( ดวงตา 1 คู่ ) รวมถึงการเตรียมผู้ที่รอคอยการปลูกถ่าย โดยเฉพาะ หัวใจ ที่ถือเป็นอวัยวะสำคัญ และมีระยะเวลาในการขนย้ายไม่เกิน 4 ชั่วโมงเท่านั้น ทีมแพทย์ได้ทำการผ่าตัดเก็บอวัยวะและรักษาหัวใจในภาชนะที่มีการควบคุมอุณหภูมิ

นายเกษม วิมลลักษณ์ อายุ 60 ปี บิดาของ นายเฉลิมพล วิมลลักษณ์ หรือ บูบู้ อายุ 36 ปี ช่างรับติดตั้งโซลาร์เซลล์ ผู้บริจาคอวัยวะ ได้กล่าวความรู้สึกว่า ในฐานะพ่อ ทั้งเสียใจและดีใจ จนไม่สามารถแสดงออกมาได้ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวครั้งนี้ แม้จะสูญเสีย ลูกชาย แต่ความดีที่สมัยยังมีชีวิตอยู่ได้ทำอย่างสม่ำเสมอ จึงถือโอกาสบริจาคอวัยวะให้สภากาชาดไทยเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ถือเป็นการทำบุญครั้งใหญ่ ให้กับลูกชาย และหากลูกรับรู้สัมผัสได้ อยากบอกรู้ว่า คนทำดีแล้วต้องทำดีต่อจนวาระสุดท้าย