เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. รายการโหนกระแส วันนี้พูดคุยกรณีคดีการตายของเสี่ยต้น เจ้าของกิจการร้านนวด ที่เคยรอดชีวิตจากการถูกลอบยิง ก่อนไปเสียชีวิตอย่างปริศนาที่บ้านของภรรยาที่ต่างจังหวัดในไม่กี่วันถัดมา ซึ่งทางคุณมด ภรรยาของเสี่ยต้นก็เคยมาออกรายการโหนกระแส ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่ท้ายที่สุดมีพยานหลักฐานนำไปสู่การออกหมายจับคุณมด และแก๊งมือปืน ในคดีจ้างวานฆ่า จากเหตุลอบยิงเสี่ยต้น ในพื้นที่ สน.วังทองหลาง

คุณเจ น้องสาวของเสี่ยต้น เล่าว่า วันที่มาออกรายการโหนกระแส เผชิญหน้ากับคุณมด เราไม่เชื่อคำพูดเขาสักคำ แต่ด้วยคำแนะนำของทนายทำให้เราไม่ไปกล่าวหา ไม่ไปปรักปรำเขาจนกว่าจะมีหลักฐาน แต่วันนี้เรามีข้อมูลจากทางตำรวจ ทำให้เรามั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าเขามีส่วนในการจ้างวานฆ่าสามีตัวเองแน่นอน

ขณะที่คุณหมวย พี่สาวลูกพี่ลูกน้องคนสนิทของเสี่ยต้น เล่าว่า ต้นจะมาปรึกษาเรื่องภรรยาอยู่บ่อยๆ ที่เขามีปัญหากันมันเริ่มมาจากตอนที่เสี่ยต้นพาผู้หญิงอื่นเข้าบ้าน ตอนนั้นตนยังบอกว่าต้นผิด ให้ไปขอโทษเมีย ไปเอาครอบครัวตัวเองกลับมา แต่ต่อมาต้นก็ไปเจอข้อความในมือถือของมด เจอว่าภรรยาแอบคุยกับคนอื่น ไม่สามารถกล่าวหาได้ว่าเป็นกิ๊กหรือเป็นอะไร เพราะมดแย่งมือถือคืนไป และเรายังจับไม่ได้ 100%

นอกจากนี้ยังมีเรื่องแบ่งทรัพย์สิน ซึ่งทั้งหมวยและเจ เล่าตรงกันว่า ได้ยินมาจากคนในร้าน เป็นลักษณะข่าวซุบซินนินทา ว่าทางคุณมดกับคุณต้น เขาขัดแย้งกันเรื่องแบ่งทรัพย์สินเรื่องร้านนวดแผนไทย มดมองว่าถ้าเลิกกันแล้วแบ่งเท่ากัน มันไม่ยุติธรรม เพราะทางฝั่งของมด และคนในครอบครัวฝ่ายมด เป็นคนมาดำเนินการ ทำงานในร้าน ทำให้ร้านเติบโตขึ้นมา เขาควรจะได้มากกว่า

ขณะที่หลวงพ่อวสันต์ พระพ่อของเสี่ยต้น บอกว่า เรื่องกิจการร้านนวดนี้ อาตมาเป็นผู้ออกเงินทุนให้เขา แต่อาตมาเองมาบวช มาอยู่ทางธรรมแล้ว ไม่อยากไปยุ่งกับเขา เพียงแต่ทราบว่าเขามีปัญหากัน ก็อยากให้เขาคุยกันดีๆ เท่านั้นเอง

วันที่เกิดเหตุ ต้นกับมดแยกกันอยู่ เป็นช่วงที่เขามีปัญหากัน แต่วันนั้นต้น พี่หมวยและพี่ตั้ง สามีของพี่หมวย ไปทานข้าวกันที่ร้านปลาเผา มดโทรฯ มานัดให้ออกไปคุยกันที่โรงเหล้าแห่งหนึ่ง เรายังเข้าใจว่าเขาจะไปเคลียร์ปัญหาครอบครัวกัน จะกลับมาดีกัน มดถ่ายรูปเซลฟี่ส่งมาบอกต้นว่า กำลังจะออกแล้วนะ ต้นก็เลยรีบไปที่โรงเหล้าดังกล่าว แต่ปรากฏว่าไปแล้วไม่เจอมด ต้นดื่มไปได้แก้วเดียว มดก็ส่งข้อความมาบอกว่า “ไม่ไปแล้ว” ต้นก็งงว่าแล้วจะนัดมาทำไม สุดท้ายก็เลยเช็กบิล แล้วขับรถออกจากร้านมา ก่อนมาเกิดเหตุถูกคนร้ายตามประกบยิง 4 นัด กระสุนเข้าทางฝั่งซ้ายของตัวรถ แต่ไม่โดนตัวคน

ขณะที่ รองแต้ม พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ มองว่า ตอนที่ยิงเข้าไป จากลักษณะเชื่อว่าคนร้ายมีทักษะพอสมควร แต่จังหวะที่รถของต้นแยกขึ้นทางด่วน ส่วนมอเตอร์ไซค์คนยิงแยกออกไปทางซ้าย ทำให้วิถีการยิงลำบากแล้ว ถ้าวันนั้นรถของต้นไม่แยกไปขึ้นทางด่วน ต้นคงไม่รอด สาเหตุหลักๆ เวลาที่คนในครอบครัวถึงขั้นวางแผนฆ่ากัน มันมีสาเหตุหลักๆ แค่ 3 ข้อ คือ 1.นอกใจ 2.ความรุนแรงในครอบครัว และ 3.เรื่องทรัพย์สิน

เท่าที่ประเมิน การที่นัดให้เสี่ยต้นไปที่โรงเหล้า น่าจะเป็นการชี้เป้าให้มือปืนมาเห็น คนที่จะชี้เป้าได้คือคนใกล้ตัว แต่ที่ภรรยาเขาตัดสินใจไม่ไปในตอนท้าย น่าจะเพราะว่าถ้าไปดื่มกินด้วย น่าจะเสียเวลานานไป เขาเลยเลือกที่จะไม่ไป แล้วพอมือปืนรู้เป้าชัดเจนแล้ว ก็เลยลงมือตอนออกจากร้านมา

ส่วนที่มดมาพูดในรายการโหนกระแส บอกว่า ตัวเองตกใจมาก ถ้าวันนั้นมดไปที่ร้านตามนัด มดคงตายไปแล้ว เพราะเขายิงเข้าทางฝั่งซ้าย ทางฝั่งคนนั่ง ทางรองแต้มมองว่าพูดไปเพื่อให้ตัวเองดูบริสุทธิ์ ส่วนทางเจก็ยังบอกว่า ที่นั่งฟังในรายการวันนั้น ไม่เชื่อเขาสักคำ

ส่วนหมวยบอกว่า ต้นรอดจากเหตุยิงมาได้ ต้นยังบอกว่า สงสัยคน 2 คน แต่ไม่สงสัยมด ต้นยังพูดว่าเชื่อว่าไม่ใช่มดแน่นอน แต่คงเป็นคน 2 คนนี้มากกว่า เพราะมีปัญหาไม่ชอบกัน  พอต้นรอดจากเหตุยิงมาได้ หมวยโทรฯ หามดแล้วถามเลยว่า มดคิดว่าใครเป็นคนทำ มดบอกว่า ต้นติดผู้หญิงคาราโอเกะ เขาอาจจะไปยุ่งกับเมียใครหรือเปล่า แต่หมวยบอกว่า ไม่จริงหรอกมด ผู้หญิงคาราโอเกะเขายังต้องทำงานแบบนี้เพื่อเลี้ยงชีพ แล้วเขาจะเอาเงินที่ไหนไปจ้างมือปืนมายิงคน แล้วเด็กคาราโอเกะที่ไหน จะจ้างคนมาฆ่าคนที่เลี้ยงดูตัวเอง เป็นขุมทรัพย์ของเขาเอง มดบอกกับหมวยว่า ตอนที่แยกกันอยู่ แยกกันเพราะหมอบอกว่าต้นมีพฤติกรรมรุนแรง ต้องให้แยกกันอยู่ ต้นทำร้ายลูก

คุณหมวย บอกอีกว่า ต้นรักเมียมากๆ สมัยเขาคบกันแรกๆ ต้นถึงกับหยุดเรียนหนังสือ จากที่พ่อส่งเงินให้ต้นเรียน ต้นให้พ่อส่งให้มดเรียนแทนจนจบ ให้เหตุผลว่ามดเรียนเก่ง ต้นเรียนไม่เก่ง ให้มดเรียนดีกว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ให้เมียเก็บหมด ทำแบบนี้เป็นสิบปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาทำ

เมื่อถามว่าทำไมต้นรักเมียมากแล้วไปมีผู้หญิงอื่น ก็ต้องบอกว่า ต้นไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงมาก่อน จนกระทั่งเริ่มมามีปัญหากับมด เขาบอกเขาเครียด ไม่รู้จะหันไปหาใคร ไม่รู้จะระบายกับใคร จึงเริ่มไปเที่ยว และเลี้ยงเด็กในร้านคาราโอเกะ ตนรู้จักต้นมานาน ก็เพิ่งเคยเห็นเรื่องผู้หญิงเมื่อครั้งนั้นเอง

คุณหมวยเล่าเหตุการณ์ก่อนที่ต้นจะไปมหาสารคาม หมวยเองเป็นคนที่บอกให้ต้นไปง้อเมีย ไปเอาครอบครัวตัวเองกลับมา เราก็ยังห่วงมดว่า ถ้าตนขับรถไป มดก็ต้องขับรถตัวเองกลับมา มดขับรถไม่แข็ง กลัวจะอันตราย ก็เลยจะให้ต้นขึ้นเครื่องบินไป มดบอกว่าขอถามแม่ก่อน เพราะทางฝั่งครอบครัวมดไม่มีใครเอาต้นแล้ว เพราะต้นเคยไปด่าพาดพิงถึงแม่ของมดไว้ก่อน  สุดท้ายมดบอกว่าแม่โอเคแล้ว มดเป็นคนซื้อตั๋วเครื่องบินให้ต้นเอง จากดอนเมืองไปลงร้อยเอ็ด สุดท้ายเป็นการเดินทางที่เสี่ยต้นไม่ได้กลับมา เขาบอกว่าต้นกินเหล้าบ้านแล้วหลับไปที่ศาลา เช้ามาก็ตายแล้ว

คุณเจ บอกว่า ทางมดส่งข้อความมาบอกว่าให้รีบมา จะเผาศพ เราก็โกรธมาก เข้าใจว่าเขาจะพยายามทำลายหลักฐาน ตอนนั้นให้น้องชายไปเอาเอกสารต่างๆ ในคดียิง ที่ สน.วังทองหลาง เพื่อจะถือไปที่มหาสารคาม ตั้งใจจะไปให้ทัน เพื่อขอศพไว้ผ่าชันสูตรก่อน

เรื่องการชันสูตรศพ มดบอกว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวรมาร่วม “ชันสูตรพลิกศพ” ที่บ้าน ไม่ได้เอาไปที่โรงพยาบาล ทางหลวงพ่อวสันต์และเจไปคุยกับตำรวจที่มหาสารคาม บอกว่าจะขอเอาศพไปผ่าพิสูจน์ แต่ทางตำรวจบอกว่า ทางครอบครัวต้องเป็นคนดำเนินการเอง ต้องหารถเอาศพไปที่โรงพยาบาล ทางตำรวจยังบอกอีกว่า อาจจะเป็นทางญาติที่คิดติดใจไปเอง  ส่วนทางหมอที่ออกไปชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ ก็ยืนยันว่าหมอได้ตรวจอย่างละเอียดเท่าที่จะทำได้

นอกจากนี้ มดยังมาหว่านล้อมหลวงพ่อ บอกว่า อย่าเอาศพไปชันสูตรเลย มดกลัวว่าถ้าผ่าแล้วเจอพวกยาต้องห้าม สารกระตุ้นต่างๆ จะไม่ได้เงินประกันชีวิต 16 ล้าน ซึ่งถ้าได้เงินมา มดจะแบ่งเงินให้ทางครอบครัวของต้น 2-3 ล้าน ตอนนั้นหลวงพ่อไม่เชื่อเขา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร ก็เลยต้องยอมตามให้เขาเผาศพไป

ทางทนายเดชา บอกว่า ลักษณะนี้มันผิดไปจากหลักกฎหมายมากๆ เมื่อมีการตายที่ผิดธรรมชาติ ทำไมถึงไม่ส่งผ่าชันสูตร แล้วทางครอบครัวบอกว่าติดใจการตาย ก็ยังไม่ส่งศพไปผ่าอีก ที่สำคัญคือเขามีคดีค้างอยู่ที่ กทม. คือคดีถูกไล่ยิง ทุกอย่างมันจำเป็นต้องมีการพิสูจน์ทั้งหมด แล้วที่สำคัญคือ มดยังพาหลวงพ่อไปลงประจำวันไว้ที่โรงพักนี้ด้วย ว่าจะแบ่งส่วนแบ่งให้หลวงพ่อ ถ้าไม่ผ่าพิสูจน์ ซึ่งตนเป็นทนายมา 39 ปี ไม่เคยเจอว่า คนตายยังไม่เผา ใครมันจะไปลงประจำวันแบ่งสมบัติกันแบบนี้ ปกติส่วนมากตำรวจเขาไม่ลงประจำวันคดีแพ่งกันด้วย แล้วคนที่รับลงประจำวัน เป็นร้อยเวรเจ้าของคดีที่ต้นตาย เขาก็ยิ่งต้องรู้รายละเอียดว่าตายอย่างผิดธรรมชาติไหม อย่างไร มันแปลกไหมแบบนี้

ขณะที่หมอหมู รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บอกว่า ในเรื่องของการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ เท่าที่ทำได้ตอนนี้ คุณเจ ได้นำเถ้ากระดูกส่งตรวจหาสารปนเปื้อน ซึ่งถามว่ามันตรวจได้ไหม มันก็ทำได้ แต่การแปรผลมันทำได้ยาก เพราะหากพบสารผิดปกติ ก็ต้องแยกให้ออกว่าเป็นสารในร่างกาย หรือสารจากไหน และมากพอที่จะทำให้เกิดการเสียชีวิตหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ระหว่างรอผล

ส่วนเรื่องการส่งผ่าชันสูตรศพนั้น ตาม ป.วิ อาญา ถ้าลงสาเหตุการตายว่า “ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ” หากญาติบอกว่าไม่ติดใจการตายก็อาจไม่ต้องผ่า แต่เมื่อญาติมีการขอยับยั้งการเผาศพ ขอส่งผ่าพิสูจน์ อันนี้ตามกฎหมายต้องส่งผ่า

ศูนย์ผ่าชันสูตรศพ ไม่มีของเอกชน เป็นของรัฐ มีแห่งเดียว ได้รับงบประมาณแผ่นดิน ไม่มีเสียค่าใช้จ่าย ส่วนเรื่องค่ารถค่าอะไรมันมีอยู่แล้ว แต่เมื่อใดก็ตามที่ญาติติดใจสงสัยการตาย ทางตำรวจต้องอำนวยความสะดวก สิ่งนี้เป็นหน้าที่ที่ตำรวจต้องทำ

คุณเจและคุณหมวยยังบอกอีกว่า ยังมีหลายคนที่อาจมีความเชื่อมโยงกับคุณมด เป็นคนใกล้ตัว อีก 4 คน ซึ่งมีจุดชวนเอะใจอีกหลายอย่าง เช่น คนๆ หนึ่งในฝั่งมด ที่รักต้นมาก แต่ไม่มาวันเผา มีบางคนที่ไปโพสต์ให้กำลังใจมด ลักษณะข้อความชวนสะดุดใจ อยากให้รอดูว่า จะมีคนที่โดนขยายผลไปถึงหรือไม่