นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เวียตเจ็ทไทยแลนด์ เปิดเผยว่า ไทยเวียตเจ็ทไทยแลนด์ ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel : SAF) เป็นสายการบินต้นทุนต่ำเจ้าแรกในภูมิภาค ซึ่งจะปฏิบัติการบินบนเส้นทางบินทั้งภายในประเทศ และระหว่างประเทศของเวียตเจ็ทไทยแลนด์ เริ่มตั้งแต่เดือน ก.ค. 67 โดยการดำเนินการดังกล่าว เป็นแผนการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมของเวียตเจ็ทกรุ๊ป เน้นย้ำความมุ่งมั่นในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตามเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 ของประเทศไทย รวมถึงเป้าหมายขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ)

นายวรเนติ กล่าวต่อว่า ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) ซึ่งผ่านกระบวนการผลิตโดยการใช้น้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว (UCO) ซึ่งสามารถผสมกับเชื้อเพลิงอากาศยานได้โดยไม่จำเป็นต้องปรับแต่งเครื่องยนต์ ความร่วมมือดังกล่าวสอดคล้องกับกลยุทธ์ OR SDG โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน “G” หรือ “Green” ที่ OR ให้ความสำคัญในการสร้างสังคมสีเขียวอย่างยั่งยืนเพื่อบรรลุเป้าหมายภายในปี 2573 ของ OR อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้ OR สนับสนุนโครงการริเริ่มด้านพลังงานสะอาดตลอดมาโดยตลอด

ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่าง OR และเวียตเจ็ทไทยแลนด์ มีเป้าหมายหลักเพื่อเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการบินโดยร่วมกันพัฒนาแหล่งพลังงานทางเลือก และเทคโนโลยีบุกเบิกสำหรับอากาศยาน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) จะมีต้นทุนสูงกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงธรรมดาหลายเท่า แต่น้ำมัน SAF สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 80% เมื่อเทียบกับน้ำมันเชื้อเพลิงธรรมดา โดยสามารถผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงธรรมดาในการการปฏิบัติการบินของอากาศยานได้อย่างปลอดภัย และราบรื่น

นายวรเนติ กล่าวด้วยว่า เวียตเจ็ทไทยแลนด์ได้ดำเนินโครงการ และกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนฟลายกรีน เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสร้างสังคมสีเขียวผ่านกิจกรรมด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมีส่วนร่วมจากผู้โดยสาร พนักงานของสายการบินไทยเวียตเจ็ท และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน.