เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของ สส.พรรคก้าวไกล ในการเปิดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญ ว่า สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญและมีสมาธิมากที่สุดคือการประชุมสภา วันที่ 18-21 มิ.ย. นี้ เป็น 2 วาระที่สำคัญมากต่ออนาคตของประเทศไทย โดยวันที่ 18 มิ.ย. จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ที่มี 3 ร่าง ทั้งของพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย และร่างของ ครม. ที่คาดว่าจะมาทันในวันดังกล่าว เพื่อหาจุดร่วมในการปรับปรุงกติกาเรื่องประชามติให้มีความเป็นธรรมมากขึ้น และในวันที่ 19-21 มิ.ย. มีอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 โดยปีนี้มีความน่าสนใจใน 2 มิติ คือ 1.เป็นงบประมาณปีแรกที่รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ มีเวลาเต็มที่ในการจัดทำ และ 2.นอกจากการตรวจสอบว่างบประมาณดังกล่าว เป็นการแก้ปัญหาของประชาชน คุ้มค่ากับภาษีหรือไม่ ซึ่งสิ่งที่พรรคก้าวไกลทำคือพยายามเสนอทางออกด้วย ไม่ใช่แค่แสดงความเห็นหรือวิจารณ์สิ่งที่เราไม่เห็นด้วยอย่างเดียว แต่เราก็ต้องตอบสังคมให้ได้ว่าถ้าเรามาอยู่ในตำแหน่งที่รัฐบาลอยู่ในเวลานี้ เราจะจัดทำงบประมาณแบบไหนที่คิดว่าจะตอบโจทย์มากกว่า โดยในอีกมุมหนึ่งนอกจากการตรวจสอบรัฐบาลแล้ว ตนคิดว่าการอภิปรายรอบนี้ เหมือนเป็นการฉายหนังตัวอย่างให้ประชาชนเห็นว่า หากในอนาคตเขาให้ความไว้วางใจก้าวไกลเป็นรัฐบาล จะมีแนวทางในการบริหารเงินภาษีของประชาชนอย่างไร ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน

เมื่อถามว่า ในพรรคฝ่ายค้านมีการแบ่งอภิปรายเรียบร้อยหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ในระหว่างพรรคถือว่าราบรื่น ซึ่งในการประชุมวิป 3 ฝ่าย ได้มีการตกลงกรอบเวลาร่วมกันอย่างราบรื่น และในภายในพรรคก้าวไกลอยู่ในขั้นตอนการคัดเลือกผู้อภิปราย โดย สส. ที่สนใจได้ทำการบ้านมาอย่างต่อเนื่อง มีกลไกใหม่สำหรับการพิจารณางบประมาณปี 2568 คือคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ ที่มีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นประธาน โดยตั้งอนุ กมธ. ขึ้นมาศึกษาคำของบประมาณ ที่นอกจากตรวจสอบ พ.ร.บ.งบประมาณ 3.75 ล้านล้านบาทแล้ว ยังมีการตรวจสอบกระบวนการก่อนหน้าที่จะเป็น 3.75 ล้านล้านบาท เพราะบางโครงการที่ตัดไปอาจตอบโจทย์กว่าโครงการที่อยู่ในงบฯ​ แต่ถูกรัฐบาลปฏิเสธไป ซึ่งจะทำให้เรามีข้อมูลครบถ้วนขึ้นในวิเคราะห์

เมื่อถามว่าเอกสารขาวคาดแดงได้ส่งมาถึง สส. แล้วหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ยังไม่ถึง เป็นความท้าทายทุกปีว่า ระยะเวลาจำนวนวันมีเวลาค่อนข้างจำกัด แต่สิ่งที่พรรคก้าวไกลทำตลอด 2 ปีที่ผ่านมา คือมีภาคประชาสังคมที่จะมาช่วยแปลเอกสารงบประมาณที่เป็นเล่ม มาเป็นลักษณะเอกซ์เซล สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างเร็ว และเผยแพร่สู่ประชาชนต่อไป.