ถูกสนใจอยู่อย่างมากมายสำหรับเรื่องราวชีวิตหลังเรือนจำของนางเอกดัง พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช ที่ล่าสุดได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวและศาลอนุมัติให้ปลดกำไล EM เพื่อสะดวกต่อการรับงานระหว่างพิจารณาคดี Forex-3D ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2566 ซึ่งตั้งแต่นั้นมา สาวพิ้งกี้ก็ได้ออกมาใช้ชีวิตตามปกติและทำงานหาเลี้ยงตัวเองแบบหนักเอาเบาสู้และมีคอนเทนต์น่ารักๆ ออกมาให้แฟนๆ ได้ยิ้มกันตลอด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

แฟนๆ สาดฟีดแบ็กใส่ ‘พิ้งกี้’ หลังออกเรือนจำ ต้องกัดฟันหนักเอาเบาสู้ไม่มีเกี่ยง!

เปิดชีวิต “พิ้งกี้” พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ กัดฟันทนเพื่อเอาชีวิตรอด!

ล่าสุดในโลกออนไลน์ได้มีการพูดถึงประเด็นต่างๆ ของสาวพิ้งกี้อีกครั้ง ด้วยความที่เป็นคนขยันทำงานและน่ารัก ทำเอาหลายคนคอยส่งกำลังใจให้เธออยู่ตลอด ซึ่งประเด็นที่คนโฟกัสหนักมากนาทีนี้คือเรื่องราวตอนที่สาวพิ้งกี้ออกมาให้สัมภาษณ์ครั้งแรกหลังจากออกจากเรือนจำเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา หลังรับงานบวงสรวงภาพยนตร์ที่รับบทนำเรื่อง “กุมาร” ซึ่งเธอได้พูดถึงบางช่วงบางตอนของชีวิตเธอที่น่าสนใจเอาไว้ว่า

พิ้งกี้ เผยว่า “เรื่องการออกมารับงานหลังจากออกมา ถามว่ากดดันไหม ก็ไม่ค่ะ ไม่ได้กดดัน เพราะว่าเราก็คือคนทำงานแหละ แล้วก็ตราบใดที่เราศรัทธาและเชื่อมั่นในสิ่งที่เราเป็น กี้เชื่อว่าความจริงมันเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่แล้ว ก็ต้องบอกว่าเราคือคนที่เป็นอย่างนี้ค่ะ ทำงานมาตลอด จะพูดว่าเราไม่ใช่คนที่เบียดเบียนใคร เพราะฉะนั้นบางทีชะตากรรมมันก็พัดพาสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในชีวิตเราใช่ปะ แต่ว่ามันอยู่มุมมองของการตั้งรับว่าเราจะตั้งรับและมองมัน แล้วก็หาเหลี่ยมของมันว่าเราจะมองมันยังไงให้เป็น ซึ่งวันนี้ก็ถือว่าชีวิตเราก็เหมือนละครเรื่องหนึ่ง ตัวกี้เองเรื่องการตั้งรับสิ่งต่างๆ กี้ก็เหมือนทุกคนแหละ เจอปัญหาแล้วเราก็ไม่คิดว่าชะตามันจะตกแต่งสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นให้กับเรา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจริงๆ แล้ว พี่ปิ๊กก็คือคนที่เป็นทนายให้เรา เพราะว่าจริงๆ แล้วตามกฎหมายแล้วพี่ปิ๊กจะพูดได้มากที่สุดค่ะ”

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก pinkysavika