เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. เรื่องราวอุทาหรณ์พิษภัยยาเสพติด ที่ทำลายชีวิตอดีตนักร้องวงดนตรีชื่อดังของเมืองโคราช “อิ๋ว-เสาวลักษณ์” ในวัย 41 ปี ต้องตกเป็นทาสยาเสพติด จนชีวิตพลิกผันตาลปัตร จากที่กำลังมีชื่อเสียง มีเงินและทรัพย์สินมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เคยมีบ้าน มีรถยนต์ ต้องกลับกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว เป็นคนเร่ร่อน เดินขอเงินชาวบ้านที่ตลาด อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซื้อข้าวกินประทังชีวิต จนมีคนพบเห็นและตีแผ่เรื่องราวชีวิตที่สะเทือนความรู้สึกของคนทั่วไป เพราะต้นเหตุจากยาเสพติด
ล่าสุด นายแสนรัก เมืองโคราช และนางศุภลักษณ์ อุ่นทวง เจ้าของวงดนตรีหนึ่งนคร 9002 ที่เคยปลุกปั้น น.ส.เสาวลักษณ์ แกมขุนทด (อิ๋ว) เมื่อสมัย 15 ปีก่อน พร้อมพี่น้องผองเพื่อนในแวดวงวงดนตรี ในนามชมรมศิลปินโคราช ร่วมกันจัดคอนเสิร์ตการกุศล “พาน้องกลับเวที” เพื่อ อิ๋ว-เสาวลักษณ์ เพื่อหาเงินทุนเป็นค่าใช้จ่ายช่วยเหลือ และพาอิ๋วเข้ารับการบำบัดอาการติดยาเสพติดที่โรงพยาบาล ให้กลับมามีชีวิตเป็นปกติสุข โดยคอนเสิร์ตจะจัดขึ้นในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ ที่เวทีกลางแจ้งร้านอาหารสรวลแสนรัก ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้ใจบุญอยากทำบุญ ให้โอกาสคนที่เคยหลงผิด สามารถบริจาคเงินให้ชมรมศิลปินโคราช บัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี นายสามารถ วิชิต เลขที่บัญชี 107-3-71101-7
ขณะที่ อิ๋ว-เสาวลักษณ์ กล่าวเปิดใจว่า ขอบคุณผู้มีพระคุณทุกคน ที่ให้โอกาสตนกลับมาขึ้นเวทีร้องเพลงอีกครั้ง เพราะเป็นสิ่งที่ตนรักมาโดยตลอด และอยากกลับมารับงานร้องเพลงเหมือนเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ยอมรับว่ายังไม่สามารถเลิกขาดจากยาเสพติดได้ ยังสับสน ยังมีเครือข่ายกระบวนการค้ายาบ้าในพื้นที่เข้ามาพัวพันในชีวิต ยังหนีออกไม่ได้ ยังมีเพื่อนในเครือข่าย ที่ยังชักชวนให้ซื้อยาบ้ามาเสพ ซื้อยาบ้าราคาเม็ดละ 50 บาท แอบเสพยา เคยเสพสูงสุดวันละ 3-4 เม็ด แต่ยืนยันจะพยายามเลิกขาดจากยาเสพติดให้ได้ และจะกลับตัวกลับใจเป็นคนใหม่ ตั้งใจกลับมาคืนเวทีร้องเพลงอีกครั้ง
ด้าน น.ส.นุจารี แกมขุนทด อายุ 42 ปี พี่สาวคนสนิท อิ๋ว-เสาวลักษณ์ บอกว่า ทุกวันนี้ได้พา อิ๋ว-เสาวลักษณ์ เข้ากระบวนการบำบัดยาเสพติด รับยาจากโรงพยาบาลจิตเวช เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย ยอมรับว่าเมื่อช่วง 10 ปีที่ผ่านมา น้องสาวถูกชักชวนไปในทางเสื่อมเสีย พาชีวิตเข้าไปพัวพันกับยาเสพติด ติดเพื่อน พากันมั่วสุม ปกติน้องสาวเป็นคนหัวอ่อน โดนชักจูงง่าย เมื่อก่อนทำงานหาเงินได้มาก เคยใช้เงินวันละ 10,000 บาท ซื้อยาบ้า 3 แถว หรือ 30 เม็ด (สมัยนั้นราคาสูง เม็ดละ 350 บาท) ตอนนี้ไม่เหลือทรัพย์สินใด ๆ หมดเนื้อหมดตัว ญาติพี่น้องก็พยายามช่วยกันดูแล แต่น้องสาวก็ยังตัดขาดไม่ได้ ช่วง 2-3 ปีก่อน พาตัวเองหลงผิด จนอาการติดยาหนักขึ้น แอบหนีไปลักลอบเสพยา เมื่อเงินหมดก็ไปเดินเร่ร่อนขอเงินชาวบ้านในตลาด เพื่อซื้อข้าวกิน จนกลายเป็นข่าวดัง วันนี้เป็นโอกาสดี ที่น้องสาวกำลังได้รับการช่วยเหลือจากผู้มีพระคุณ ยืนยันจะพาน้องสาวบำบัดอาการติดยาให้หายขาด และกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งให้ได้
