เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ขณะที่ ร.ต.อ.อุทัย วังทัน รอง สว.(สอบสวน) สภ.ย่อยนาข่า อ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้มีนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 62 ปี ชาว อ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วย น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี ลูกสาวคนเล็ก พาพ่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่า เวลา 17.00 น. วานนี้ (3 มิ.ย.) ได้ถูกนายยา อายุประมาณ 44 ปี ลูกเขยคนโต ทำร้ายร่างกาย โดยใช้มีดอีโต้ฟันที่ศีรษะด้านขวาเป็นแผล เย็บ 9 เข็ม จนคนเจ็บล้มลงกับพื้น จากนั้นทั้งต่อยทั้งเตะเข้าที่ปากและจมูกซ้ำเป็นแผล เย็บ 3 เข็ม จึงมาแจ้งความดำเนินคดี
นายเอ เล่าว่า ขณะตนนั่งดื่มสุราอยู่ที่โต๊ะหินอ่อน ได้ถามหาปลั๊กสายไฟจากลูกเขย ทำให้ลูกเขยไม่พอใจ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยลงรอยกันอยู่แล้ว เพราะลูกเขยมีพฤติกรรมเสพยาบ้า ไม่ยอมทำการทำงาน เดินถือมีดอีโต้เข้ามาฟันที่หัวตน และทั้งต่อยทั้งเตะตนจนล้มลงกับพื้น แถมยังเตะและกระทืบซ้ำเข้าที่ปากและจมูกจนมึนงงงวยไปหมด พอตั้งสติได้ก็ปั่นจักรยานไปหาหมอที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อเย็บแผล และกลับมาบ้านเล่าเรื่องให้ลูกสาวคนเล็กฟัง ให้พาตนมาแจ้งความดำเนินคดีกับลูกเขยให้ถึงที่สุด
ด้าน น.ส.บี เล่าว่า พี่เขยอยู่กินกับพี่สาว ซึ่งพิการตาบอด จนมีลูกชาย อายุ 11 ขวบ 1 คน ส่วนตนมีบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน ขณะเกิดเหตุตนไม่อยู่บ้าน เพราะออกไปทำงาน มีเพียงหลานชายและพี่สาวพิการตาบอดอยู่ที่บ้าน ตนจึงถามหลานชายว่าตาไปไหน จนทราบว่าตาไปหาหมอ เพราะถูกพ่อทำร้ายร่างกาย และเห็นเลือดกองอยู่ที่พื้น แต่พี่เขยได้เอาทรายมากบเอาไว้ ตนไม่กล้าถามพี่เขยในเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะกลัวโดนทำร้าย จึงรีบตามไปหาพ่อที่โรงพยาบาล ก็พบพ่อมีเลือดไหลอาบหัวและใบหน้า อยากให้ตำรวจจับพี่เขย ติดคุกให้เข็ดไปเลย แถมยังท้าให้พ่อและตนไปแจ้งตำรวจได้เลย เพราะเขาไม่กลัว คงคิดว่าตำรวจทำอะไรเขาไม่ได้
“พี่เขยคนนี้ทำร้ายร่างกายพ่อมาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้รุนแรงกว่าทุกครั้ง เสียใจมากที่พี่เขยที่เคารพนับถือจะมาทำกับพ่อของตนได้ถึงเพียงนี้ ถึงแม้พ่อจะเป็นคนชอบดื่มเหล้า ยังไงเขาก็เป็นพ่อ ไม่ใช่คนอื่น และไม่อยากให้ใครมาทำร้ายพ่อแบบนี้ ส่วนพี่สาวก็ไม่กล้าบอกสามี เพราะกลัวจะถูกทำร้ายเอา เคยบอกพี่เขยแยกทางกับพี่สาวและให้ออกจากบ้านไป เขาบอกว่าให้ไปถามพี่สาวตนว่าทำใจได้ไหม หากพี่เขยออกจากบ้านไปพร้อมกับลูกชาย ตนเลยถามว่าหากเอาหลานชายไปด้วย แล้วสามารถเลี้ยงดูเขาได้หรือไม่ พี่เขยกลับพูดประชดว่า หากไม่มีข้าวให้ลูกกิน ก็จะเอาขี้ให้กินแทนข้าว” น.ส.บี กล่าว
หลังจากสอบปากคำผู้เสียหายเสร็จ พ.ต.ท.รุ่งศักดิ์ มหาปัญญาวงศ์ หน.สภ.ย่อยนาข่า สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน พร้อมผู้เสียหายเดินทางไปจับกุมตัว นายยา ที่บ้านที่เกิดเหตุมาสอบสวนปากคำดำเนินคดีตามกฎหมาย พบเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนไม้ แต่ไม่พบตัว คาดว่าได้หลบหนีออกจากบ้านไปก่อนที่ตำรวจจะมาถึง เพราะรู้ว่าน้องเมียพาพ่อตามาแจ้งความที่โรงพัก อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ตำรวจจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.
