เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมขับเคลื่อนมาตรการบริหารจัดการผลไม้และพืชเกษตรเศรษฐกิจตัวรอง ปี 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับข้อสั่งการจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ให้ดำเนินการเชิงรุก ดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกร โดยเฉพาะพืชเกษตรเศรษฐกิจตัวรอง ควบคู่ไปกับที่รัฐบาลได้ดูแลพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศ ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มาอย่างต่อเนื่อง

นายภูมิธรรม กล่าวว่า สำหรับมาตรการดูแลพืชเกษตรเศรษฐกิจตัวรอง ได้กำหนดมาตรการบริหารจัดการผ่าน 8 กลไก ได้แก่ 1.การกระจายออกนอกแหล่งผลิต 2.การเชื่อมโยงต้นทาง-ปลายทาง 3.การทำสัญญาข้อตกลงซื้อขายล่วงหน้า 4.การผลักดันส่งออก 5.การส่งเสริมการแปรรูป 6.การรณรงค์บริโภค 7.การสนับสนุนบรรจุภัณฑ์และการขนส่ง และ 8.ความร่วมมือหน่วยงานพันธมิตร โดยภาครัฐจะร่วมมือกับภาคเอกชนในการดำเนินการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรทั่วประเทศว่าจะได้รับการดูแลพืชเกษตรตัวรองได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ได้มีการนำร่องดูแลพืชเกษตรเศรษฐกิตัวรอง ได้แก่ ผลไม้ ผัก พืช 3 หัว (หอมใหญ่ กระเทียม หอมแดง) โดยจะร่วมมือจากภาคีเครือข่ายภาคเอกชนยักษ์ใหญ่กว่า 10 กลุ่มธุรกิจ 20 เครือ 18 บริษัท เช่น กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล ผู้ผลิตสินค้า ค้าปลีก-ค้าส่ง โรงแรม หมู่บ้าน-คอนโด ปั้มน้ำมัน สายการบิน แพลตฟอร์ม อุตสาหกรรมแปรรูป-ส่งออก และนิคมอุตสาหกรรม มีความยินดีช่วยเชื่อมโยงรับซื้อผลผลิตพืชเกษตรตัวรองจากเกษตรกรในเบื้องต้น รวมปริมาณกว่า 313,000 ตัน เสริมเพิ่มเติมจากเดิมที่กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดเป้าหมายการบริหารจัดการไว้ก่อนหน้าแล้ว 1.344 ล้านตัน รวมปริมาณทั้งสิ้น 1.657 ล้านตัน และยังมีภาคเอกชนรายใหญ่อื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างพิจารณาช่วยเชื่อมโยงรับซื้อเพิ่มเติมอีกในอนาคต 

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ส่วนสินค้าผลไม้ จะมีการติดตามสถานการณ์ด้านการผลิต และการตลาดผลไม้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผลไม้ภาคใต้ ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง และภาคเหนือ ได้แก่ ลำไย ลองกอง ที่จะออกสู่ตลาดมากในระยะต่อไปกว่า 3 ล้านตัน โดยจะได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนการดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นตาม 8 กลไกที่ได้กำหนดไว้ โดยเฉพาะผลไม้ตัวรอง ที่จะต้องเข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพื่อให้เกษตรกรขายผลผลิตได้และมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น 

“ปี 2567 ผลผลิตผลไม้ออกสู่ตลาดเกินกว่าครึ่งทางแล้ว พบว่า ราคาดีทุกตัว ไม่มีปัญหาราคาตกต่ำ เป็นผลจากที่รัฐบาล โดยกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคีเครือข่าย ได้ร่วมกำหนดมาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุก ปี 2567 ไว้ตั้งแต่ช่วงก่อนผลผลิตออกสู่ตลาด เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2566 รวมถึงการจัดคณะผู้บริหารระดับสูงเดินทางไปเจรจาเรื่องด่านกับรัฐบาลจีน ในช่วงก่อนที่ผลผลิตจะออกสู่ตลาด ส่งผลให้ภาคการส่งออกมีความคล่องตัว ไม่ติดขัด” นายภูมิธรรม กล่าว

ทัั้งนี้ ในปี 2567 พืชเกษตรเศรษฐกิจตัวรอง มีจำนวน 18 ชนิด คาดว่าจะมีผลผลิตประมาณ 7.5 ล้านตัน แยกเป็นผลไม้ 11 ชนิด ได้แก่ 1.ทุเรียน 2.มังคุด 3.เงาะ 4.ลองกอง 5.ลำไย 6.สับปะรด 7.ลิ้นจี่ 8.ส้มโอ 9.ส้มเขียวหวาน 10.มะยงชิด 11.มะม่วง ผัก 4 ชนิด ได้แก่ 1.มะนาว 2.มะเขือเทศ 3.ฟักทอง 4.พริกขี้หนูจินดา และพืชสามหัว 3 ชนิด ได้แก่ 1.หอมแดง 2.หอมหัวใหญ่ 3.กระเทียม.