เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ วัดทางหลวง ศาลา 3 อ.เมือง จ.นนทบุรี นางบรรจง ทองอ่อน อายุ 80 ปี แม่ผู้เสียชีวิต พร้อมทนายฉัตรชัย ทองอ่อน อายุ 55 ปี พี่ชาย มอบหมายให้ทางไวยาวัจกรวัดได้ทำพิธีเปิดโลงให้กับนายไพศาล ผู้เสียชีวิต โดยการนำสายสิญจน์ โยงผู้กับไม้ พร้อมจุดเทียนทั้งหมด 8 เล่ม โดยจุดวนด้านขวาก่อนดับเทียนแล้วนำมีดโบราณเคาะไปที่โลงทั้งหมด 3 ครั้ง ก่อนให้ทางด้านนายฉัตรชัย เรียกชื่อผู้ตายให้เข้ามาอยู่ในโลงศพที่เปรียบเสมือนบ้านหลังใหม่ ซึ่งเป็นความเชื่อของคนสมัยโบราณ หลังจากเสร็จพิธีเปิดโลง ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตได้มีการพูดคุยกันในครอบครัว และปรึกษาทางพระอาจารย์ภายในวัด ว่าสามารถจัดพิธีรดน้ำศพได้ โดยไม่ต้องนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากโลง ทางครอบครัวจึงได้ทำการรดน้ำโดยรดผ่านรูปถ่าย โดยมีสายสิญจน์โยงผูกอยู่กับรูป

นายฉัตรชัย พี่ชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตอนแรกทางญาติได้มีการปรึกษากันว่าหลังจากนำศพมาจากโรงพยาบาล จะไม่มีพิธีรดน้ำศพ เพราะไม่อยากให้มีใครเห็นสภาพศพของน้องชาย เนื่องจากมีบาดแผลหลายแห่ง รู้สึกสะเทือนใจ ขนาดตนเป็นคนไปรับศพที่โรงพยาบาลเองยังรับไม่ได้กับสภาพศพของน้องชายที่ได้เห็น จึงตั้งใจว่าจะไม่มีพิธีรดน้ำศพแต่จะใช้วิธีสวดอภิธรรมศพแทน กระทั่งได้ปรึกษากับพระอาจารย์ที่อยู่ในวัด บอกว่าทำพิธีรดน้ำศพได้ โดยการรดน้ำผ่านทางรูปถ่ายและโยงสายสิญจน์ไปที่โลงศพของผู้ตาย เปรียบเสมือนตัวผู้ตายนอนให้รดน้ำศพ ทางญาติจึงได้ตัดสินใจทำตาม ส่วนกรณีที่พ่อหรือญาติของโฟโต้จะมาร่วมพิธีศพในคืนนี้ ตนไม่ได้ห้าม เปรียบเสมือนแขกที่มาร่วมภายในงาน ส่วนตัวตนไม่รับคำขอโทษหรืออโหสิกรรมให้ เพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่น้องชายถูกกระทำ

นางบรรจง แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า วันนั้นแม่ไม่รับซอง ทางฝั่งผู้ก่อเหตุมีอาการฮึดฮัด ตนไม่ได้ว่าลูกเขาเลว ตอนนั้นพูดไม่ออก ตนสูญเสียลูกชายแต่กลับมาทำปฏิกิริยาไม่พอใจ ตนรู้สึกเสียใจมาก ลูกชายตนตั้งแต่เด็กไม่เคยเกเร ใครได้ข่าวทุกคนตกใจเพราะลูกชายเป็นคนไม่เคยระรานใคร ดูแลแม่อย่างดี ซื้อของให้แม่กิน เอาของไปขาย รับศพมาแม่ยังไม่กล้าไปดู เพราะแม่รับไม่ได้ ถ้าวันนี้พ่อของผู้ก่อเหตุมา ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร เหมือนแขกคนหนึ่งที่มาร่วมงานศพ อยากบอกลูกชายว่าไม่ต้องห่วงแม่ หลับให้สบาย หนูทำดีกับแม่มาตลอด หนูไม่ต้องห่วงแม่.