วันที่ 3 มิ.ย. จากกระแสข่าวการปลดพนักงานและการปิดกิจการของหลายโรงงาน หลายบริษัทในเวลานี้ ล่าสุด นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย และประธานกรรมการกลุ่มบริษัท วี-เสิร์พ กรุ๊ป กล่าวว่า ตัวเลขการว่างงานเดือน พ.ค. อยู่ที่ประมาณ 4 แสนกว่าคน เพิ่มขึ้น 1.1% จากที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นไม่ถึง 1% หรือประมาณ 3.5-3.6 แสนคน ถือเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นสูงขึ้นมาก ซึ่งต้องไปพิจารณาสาเหตุว่า เกิดจากอะไร

ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นข่าวการปลดแรงงาน หรือปิดตัวบริษัทเพิ่มขึ้น ถือเป็นสถานการณ์ที่น่ากังวล มีโอกาสที่จะเห็นเพิ่มขึ้นอีก หากรัฐบาลไม่เข้ามาเร่งแก้ปัญหาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการให้ผู้ประกอบการทั้งเอสเอ็มอี และรายใหญ่บางธุรกิจที่เริ่มเกิดปัญหาแล้ว เนื่องจากปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงิน กลายเป็นปัญหาใหญ่ของผู้ประกอบการ ที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างหนัก เมื่อไม่มีสภาพคล่อง ก็ไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนพนักงาน ไม่มีสายป่านทำธุรกิจต่อ จึงกลายเป็นปัญหาใหญ่ยิ่งกว่าการขอให้ธนาคารลดดอกเบี้ยอีก

“ตอนนี้ไม่ใช่แค่ธุรกิจขนาดย่อยแล้วที่ประสบปัญหาสภาพคล่อง ธุรกิจใหญ่อย่างธุรกิจที่พึ่งพาการส่งออก เช่น ธุรกิจแปรรูปเกษตร หรือธุรกิจอุตสาหกรรมดั้งเดิมที่ใช้แรงงงานจำนวนมาก ธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แบบดั้งเดิม กำลังกลายเป็นธุรกิจเรดโซน หลายๆ ธุรกิจทำธุรกิจยากยิ่งกว่าตอนเกิดโควิด-19 หนักๆ อีก รวมถึงบริษัทตนเองด้วย เพราะตอนนั้นยังมีความต้องการสินค้า แต่ตอนนี้ความต้องการสินค้าของต่างประเทศ ลดลงมาก ขายของไม่ได้ สิ่งที่ภาครัฐต้องเร่งแก้ปัญหา ต้องทำอย่างไรก็ได้ให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงิน หลายรายสายป่านกำลังขาด อาการน่าเป็นห่วง เหมือนกำลังเป็นระเบิดเวลา รัฐต้องเข้ามาการันตีเป็นผู้ค้ำประกันให้ หากผู้ประกอบการรายไหน ยังพอไปได้ แล้วคดีถึงสิ้นสุด เพื่อให้ธุรกิจไปต่อไป ไม่เช่นนั้น จะเห็นแรงงานตกงานอีกจำนวนมาก”