“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย เดินหน้าซ้อมต่อเนื่อง เตรียมพร้อมแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 กลุ่ม C ใน 2 เกมสุดท้าย วันที่ 6 มิ.ย. เวลาไทย 19.00 น. เยือนจีน ที่ เสิ่นหยาง โอลิมปิก เซ็นเตอร์ สเตเดี้ยม และวันที่ 11 มิ.ย. เวลา 19.00 น. เปิดบ้านพบ สิงคโปร์ ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ช่อง 32 ถ่ายทอดสด

โดยวันที่ 3 มิ.ย. 67 ทีมไทยได้นักเตะครบ 27 คน หลังจากที่ “เช็ค” สุภโชค สารชาติ เพลย์เมคเกอร์จากคอนซาโดเล ซัปโปโร เดินทางมาสมทบเป็นรายสุดท้าย

สถานการณ์ตอนนี้ ก่อนเตะ 2 นัดสุดท้าย เกาหลีใต้ 10 แต้ม, จีน 7 แต้ม (ผลต่างประตูได้เสีย +1), ไทย 4 แต้ม (ผลต่างประตูได้เสีย -2) และสิงคโปร์ 1 แต้ม รอบนี้คัด 2 ทีมเข้ารอบ โดยโจทย์ของไทยคือต้องแซงจีนเพื่อติดอันดับ 2 ให้ได้ ดังนั้นการเยือนถิ่นมังกรควรต้องชนะ เพื่อลุ้นต่อในนัดสุดท้าย แต่ถ้าเสมอ ก็ยังมีโอกาสแม้จะลำบากมากก็ตาม และไทยจะตกรอบทันที ถ้าบุกไปแพ้จีน

สารัช อยู่เย็น กองกลางตัวเก๋า ที่นัดแรกยิงให้ทีมไทยนำจีน 1-0 แต่เขาก็จ่ายพลาดทำให้โดนตีเสมอ 1-1 และจบด้วยชัยชนะของจีน 2-1 ให้สัมภาษณ์รายการแตงโมลงปิยะพงษ์ยิง ว่า นัดแรกดีใจที่ยิงได้ จังหวะจับบอลลอยสูง จริงๆ ไม่ตั้งใจ พอบอลเด้งเลยต้องแก้ไขสถานการณ์ยิงประตู ขณะเดียวกันก็ผิดหวังที่มีส่วนทำให้เสียประตู เกมนั้นทีมไทยไม่ได้ประหม่า แต่มั่นใจเกินไป เป็นดาบสองคม รีบทำกันหมด เจอจีนที่ราชมังฯ คิดว่าไม่ได้ยากเกินความสามารถของทีมไทย แต่ผิดพลาดเอง รีบเกิน เร่งเกิน

เจ้าตังค์ กล่าวด้วยว่า การวางแผนของ มาซาทาดะ อิชิอิ นั้น เมื่อไปเจอระดับเอเชีย จะให้รายละเอียดเกมรับเป็นลำดับแรก บอลอยู่โซนนี้ ต้องทำอย่างไร แต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบเมื่อมารวมกัน เป็นประสิทธิภาพที่ดี ส่วน มาโน โพลกิง จะเน้นกดดันแดนบน เรื่องนี้แล้วแต่โค้ช เปรียบเทียบกันไม่ได้ อยู่ที่ว่าจะใช้แทคติกตัวเองเกิดประสิทธิภาพแค่ไหน

เมื่อถามว่า สาเหตุที่นักบอลไทยแม้จะซ้อมหนัก แต่ทำไมช่วงท้ายเกมมักจะอ่อนแรง เจ้าตังค์ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการแบ่งพลังในสนาม สำหรับการเล่น 90 นาที อาจเป็นสิ่งที่นักบอลไทยต้องพัฒนามากขึ้น จังหวะไหนต้องเต็มที่ จังหวะไหนต้องดึงเกม เป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ พัฒนา.