เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ สภ.หนองปรือ นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความชื่อดัง ได้พาพ่อแม่ลูก ได้แก่ นายเบียร์ อายุ 33 ปี, น.ส.กานต์ อายุ 33 ปี และ น.ส.พิมพ์ อายุ 16 ปี เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อลงบันทึกประจำวันยืนยันการมีตัวตน และที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่งชัดเจน หลังมีกระแสข่าวว่าจะถูกตำรวจออกหมายเรียกในคดีพรากผู้เยาว์ และรับของโจร กรณีถูกครอบครัวของ นายเจสซี่ อายุ 17 ปี หนุ่มลูกไทย-ไอซ์แลนด์ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับครอบครัวรายนี้

หนุ่มลูกครึ่งร้องน้องชาย ม.4 ถูกอดีตแฟนหลอกเงินเกือบล้านซ้ำหายตัวลึกลับ

โดย นายรัชพล เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่าน ครอบครัวของฝ่ายนายเจสซี่ ได้การแจ้งความฐานความผิดเกี่ยวกับคดีพรากผู้เยาว์ ในวันนี้ จึงพาฝ่ายคู่กรณี ลงบันทึกประจำวันว่า แต่ละคนมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี หากตำรวจจะออกหมายเรียก ก็สามารถออกได้เลย เพราะว่าทุกคนยินยอมมาให้ปากคำในคดีนี้ แต่ยืนยันว่าจะขอปฏิเสธข้อกล่าวหาพรากผู้เยาว์ เพราะจากพฤติการณ์แล้ว หากเป็นการพรากผู้เยาว์จะต้องมีผู้พามา แต่ในกรณีนี้ นายเจสซี่ เป็นผู้ขับรถมาหาเอง โดยไม่มีการบังคับหรือพามา ตามที่ฝ่ายคู่กรณีเข้าแจ้งความ จึงไม่เข้าข่ายเป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์ พร้อมทั้งฝากไปยังฝ่ายคู่กรณี หากจะให้สัมภาษณ์หรือให้ข่าว ขอให้ระมัดระวังกรณีฝ่ายลูกความตนได้รับความเสียหาย เตรียมจะฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นประมาททันที

ด้าน น.ส.กานต์ เปิดเผยว่า รู้สึกตกใจเพราะ “เจสซี่” ไปเคาะประตูที่บ้านบอกว่าจะทำไงดี ที่บ้านรู้เงินในบัญชีที่เบิกออกมาจนหมด ด้วยความที่กลัวว่าแฟนจะรู้ เพราะแฟนเป็นคนดุมาก ถ้าพ่อรู้คงเป็นเรื่องใหญ่ ด้วยความเป็นห่วงลูกสาว ทางเจสซี่เองก็กลัว จึงชวนกันออกไปคุยนอกบ้าน เพราะไม่อยากให้แฟนรับรู้ ถ้าหากแฟนรู้คงเกิดการปะทะกัน โดยเจสซี่เป็นฝ่ายขับรถยนต์มารับ เพื่อพากันปรึกษาหาทางออก

ส่วนประเด็นเรื่องชู้สาว ตนเองยอมรับว่ามีการพูดคุยกันจริง แต่ไม่ได้เกินเลยถึงขนาดขั้นมีเพศสัมพันธ์ ตามที่ถูกแม่ฝ่ายเจสซี่กล่าวหา เนื่องจากเจสซี่เป็นชาวต่างชาติ ชอบมากอดมาหอม โดยทุกครั้งเจสซี่จะพูดว่า “…แม่ขอกอดหน่อย ผมรักแม่ครับ…” บางครั้งก็จะเรียกตนเองว่า “แม่กานต์” ที่ผ่านมา ตนเองดูแลเจสซี่เป็นอย่างดี เหมือนกับที่ดูแลลูกตัวเอง เจอเจสซี่ครั้งสุดท้าย ประมาณวันที่ 23 พ.ค. 67 ส่วนคลิปที่ปรากฏ ยืนยันว่าทุกครั้งที่อยู่ในโรงแรม จะมีบุคคลที่ 2-3 อยู่ด้วยเสมอ สำหรับประเด็นเรื่องเงิน ตนไม่เคยได้รับเงินจากเจสซี่แม้แต่บาทเดียว ส่วนใหญ่จะเป็นการโอนเงินให้ลูกสาว ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับ นายเบียร์ ตนเองไม่ขอพูดอะไร เพราะยอมรับในความผิด และพร้อมที่จะร่วมแก้ไขปัญหากับแฟน หาเงินมาชดใช้คู่กรณี ตามที่ลูกสาวตนเองได้ทำลงไป

ขณะเดียวกัน นายเบียร์ ได้นำทะเบียนสมรสมาโชว์ต่อหน้าสื่อมวลชน ก่อนระบุว่า ตนยังไม่แน่ใจกรณีเรื่องของการฟ้องชู้ เพราะตนไม่อยากมีคดีความ แต่ในวันนี้ที่ออกมายืนยันว่าต้องการปกป้องครอบครัว และอยากให้ครอบครัวกลับมาเหมือนเดิม ส่วนเรื่องเงิน 900,000 บาท ที่ถูกกล่าวอ้าง ยืนยันว่าลูกสาวได้รับเงินโอนจริง แต่หากดูในสลิปบัญชีของลูกสาวแล้ว จะพบว่ามีเงินโอนมาทั้งหมดเพียง 3.8 แสนบาท ในส่วนนี้ก็กำลังหาวิธีชดใช้ แต่ในส่วนยอดเงินอื่น ยืนยันว่าครอบครัวของตนไม่เคยได้รับ แต่ทราบจาก “เจสซี่” ว่า ส่วนที่เหลือถูกโอนไปให้พี่ชาย นำไปเล่นการพนันออนไลน์ ส่วนเรื่องที่ฝ่ายคู่กรณีออกมาให้ข่าวทำให้ตนเสียหายนั้น ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างปรึกษาทนายฟ้องหมิ่นประมาทฯ

ด้าน น.ส.พิมพ์ เปิดเผยว่า ตนยอมรับว่า ขอเงินเจสซี่มาจริง โดยเริ่มขอตั้งแต่คบกันช่วงแรก ฝ่ายเจสซี่ซื้อโทรศัพท์ไอโฟนให้จริงตามที่เป็นข่าว แต่ตนก็ได้ขอเงินพ่อแม่ทยอยชดใช้คืนแล้ว ส่วนยอดเงินทั้งหมดที่ได้รับมาประมานเกือบ 4 แสนบาท โดยเจสซี่โอนให้ครั้งละหลักพัน ตนก็เอาไปกินใช้ตามปกติ และตนยอมรับว่า โกหกเจสซี่ว่า ขอเงินมาใช้หนี้ให้ นายเบียร์ ผู้เป็นพ่อ แต่นายเบียร์ ไม่รู้เรื่องและไม่เคยได้รับเงินแต่อย่างใด.