เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ความคืบหน้าคดี “เสี่ยต้น” น.ส.เพลง (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี แฟนสาวของนายสาโรจน์ คนจัดหาอาวุธปืนและเอาอาวุธไปวางที่จุดนัดหมายเพื่อให้คนร้ายใช้ก่อเหตุได้เปิดใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่แฟนหนุ่มถูกจับ ว่า ตนคบหากับนายสาโรจน์มา 6 ปีแล้ว ไม่เคยคิดมาก่อนว่าแฟนจะยุ่งเกี่ยวกับคดีจ้างวานฆ่าแบบนี้ ส่วนตัวแล้วเท่าที่รู้นายสาโรจน์กับเจ๊มดไม่ได้รู้จักกันเป็นพิเศษ และตนก็ไม่เคยเห็นนายสาโรจน์พูดถึงเรื่องเจ๊มดมาก่อน เพียงแต่ช่วงเวลาหลังจากเกิดเหตุสังเกตเห็นว่า เวลามีข่าวการเสียชีวิตของเสี่ยต้นที่เสนอในทีวี เขาก็มักจะพูดกับเพื่อน พร้อมกับให้ความสนใจข่าวนี้เป็นพิเศษ ซึ่งตนก็สงสัยแต่ไม่กล้าถาม เพราะทุกครั้งที่ถามนายสาโรจน์มักจะตอบปัด ๆ เหมือนไม่อยากให้ถามต่อ ตนจึงไม่ถาม เพราะกลัวว่าจะหงุดหงิดและถูกต่อว่าเพราะปกติแล้ว นิสัยส่วนตัวของนายสาโรจน์มักเป็นคนใจร้อน

น.ส.เพลง กล่าวต่อว่า ตนเริ่มเห็นว่า นายสาโรจน์เอาปืนมาที่บ้านเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวอ้างว่าเป็นปืนของเพื่อน ซึ่งหลังจากที่ไปก่อเหตุมา นายสาโรจน์ก็ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้ดูเป็นคนมีเงินหรือใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเลย โดยเมื่อเช้านี้ตอนที่ตำรวจนำกำลังเข้าจับกุมนายวีรภัทร ซึ่งทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ ก็เคยเห็นมาที่บ้าน ช่วงปลายเดือนมีนาคม โดยขี่รถมอเตอร์ไซค์สีขาวคันก่อเหตุมารับนายสาโรจน์ที่บ้าน ตนไม่ได้รู้จักกับนายวีรภัทรมาก่อน แต่รู้เพียงว่าเค้าเป็นเพื่อนกับนายสาโรจน์ เมื่อรู้ข่าวก็ตกใจมาก ไม่เคยคิดว่า แฟนจะมีส่วนร่วมกับคดี แต่ก็ทราบว่านายสาโรจน์รับสารภาพทั้งหมด

ต่อมาทางชุดสืบสวนได้มีการคุมตัวนายวีรภัทร อายุ 25 ปี คนที่รับหน้าที่ขี่จักรยานยนต์ให้กับมือยิงเข้ามาที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อคุมตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

เลือดเย็น! เผย ‘เมียเสี่ยต้น’ วางแผนสั่งตายตั้งแต่ มี.ค. จัดหามือปืนผ่านแอปมือถือ

โดยระหว่างที่มีการคุมตัวมา นายวีรภัทร ได้มีการสวมหมวกกันน็อกเต็มใบ พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองยืนยันว่าไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับเจ๊มด ภรรยาของเสี่ยต้น ไม่รู้ว่ามีการจ้างวานจากใคร แต่ยอมรับว่าเป็นคนที่ขี่จักรยานยนต์ให้กับมือยิงจริง ซึ่งตนเองไม่ได้ตั้งใจทำ เนื่องจากไม่ทราบว่าถูกว่าจ้างให้ไปขี่รถจักรยานยนต์เพื่อประกบยิงเสี่ยต้น เพราะในวันนั้นมีการว่าจ้างให้ตนเองขี่รถจักรยานยนต์ไปตามหาแฟนสาวของมือยิง โดยตนเองได้ค่าจ้างเป็นเงิน 4,000 บาท

นอกจากนี้ในวันที่ก่อเหตุจังหวะที่มือปืนลงมือยิง ตนเองก็พยายามขี่รถจักรยานยนต์เบี่ยงออกเพื่อให้วิถีกระสุนไปทิศทางอื่น พอหลังจากที่เป็นข่าว ตนเองก็มีความคิดที่อยากจะเข้ามอบตัวกับทางตำรวจ แต่ยังอยู่ในระหว่างปรึกษากับทางพี่ๆ ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวได้ในเช้าวันนี้ โดยนายวีรภัทร ยอมรับว่า ตนเองรู้สึกผิด และอยากขอโทษทางครอบครัวของเสี่ยต้น

ต่อมาตำรวจได้นำตัวนางสาววรรณิภา อายุ 37 ปี หรือ มด ภรรยาของเสี่ยต้น มาที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อมาสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียด โดยนางสาววรรณิภา ได้สวมหมวกแก๊ปสีดำ และใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า ระหว่างที่มีการคุมตัวขึ้นไปยังห้องสอบสวน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เธอได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจ้างวานฆ่าสามีหรือไม่ รวมถึงสาเหตุที่ต้องจ้างวานฆ่าสามีมาจากสาเหตุอะไร และในวันที่เธอปรากฏตัวต่อหน้าสื่อทำไมถึงต้องพูดโกหกด้วย โดยตัวของนางสาววรรณิภานั้น เดินก้มหน้าและไม่มีการตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน