สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ ออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ เกี่ยวกับการที่ตัวเองอาจเผชิญกับบทลงโทษจำคุก หรือการกักบริเวณ ว่าโดยส่วนตัว “ไม่มีปัญหา” แต่ “ไม่มั่นใจว่ามวลชนฝ่ายสนับสนุนจะยอมรับหรือไม่” และเตือนว่า เรื่องนี้อาจกลายเป็น “จุดแตกหัก” ของการเมืองสหรัฐ ที่กำลังจะมีการะเลือกตั้งประธานาธิบดี ในวันที่ 5 พ.ย. นี้


อนึ่ง สหรัฐเผชิญกับเหตุรุนแรงและวุ่นวายทางการเมือง จากการที่ประชาชนฝ่ายสนับสนุนทรัมป์ บุกเข้าไปภายในอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 ซึ่งกำลังมีการประชุมวาระพิเศษ รับรองผลการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐ ที่ทรัมป์พ่ายแพ้ให้กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำคนปัจจุบัน และทั้งคู่กำลังจะเป็นคู่แข่งกันอีกครั้ง ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง


ทั้งนี้ คณะลูกขุน ของศาลรัฐบาลกลางในเขตแมนฮัตตัน ของนครนิวยอร์ก มีมติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าทรัมป์ มีความผิดจริงตามคำฟ้องทั้ง 34 กระทง จากการปลอมแปลงข้อมูลทางการเงิน โดยอัยการกล่าวหา ว่าอดีตผู้นำสหรัฐปกปิดข้อมูลและใช้เงินด้วยวัตถุประสงค์ เพื่อเจตนากระทำการผิดกฎหมาย ให้นายไมเคิล โคเฮน ทนายความในเวลานั้น นำเงิน 130,000 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 4.78 ล้านบาท ) ไปจ่ายให้แก่ น.ส.สตอร์มี แดเนียลส์ นักแสดงภาพยนตร์ผู้ใหญ่ เพื่อไม่ให้ฝ่ายหญิงเปิดโปง ความสัมพันธ์ฉันชู้สาว ระหว่างเธอกับทรัมป์


เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อปี 2559 ซึ่งทรัมป์ ที่เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน ชนะนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนพรรคเดโมแครต


อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาอนุญาตให้ทรัมป์ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยไม่ต้องมีการวางหลักทรัพย์ประกันตัว และศาลอยู่ระหว่างพิจารณาหลักฐานทั้งหมดอีกครั้งอย่างละเอียด ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย ก่อนการประกาศคำตัดสิน ในวันที่ 11 ก.ค. นี้ ซึ่งจะเป็นการชี้ชะตา ว่าทรัมป์ซึ่งกลายเป็นอดีตผู้นำสหรัฐคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ต้องคำพิพากษาในคดีอาญา ต้องรับโทษจำคุกหรือไม่


สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้ ก่อนถึงวันประกาศคำพิพากษาของศาล แน่นอนว่าจะทำให้การเมืองสหรัฐเผชิญกับภาวะตึงเครียดอย่างหนัก เนื่องจากพรรครีพับลิกันมีกำหนดประชุมใหญ่ ที่เมืองมิลวอกี ในรัฐวิสคอนซิน ในวันที่ 15 ก.ค. ซึ่งจะเป็นการเสนอชื่อทรัมป์อย่างเป็นทางการ ในฐานะตัวแทนพรรครีพับลิกัน สู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี

ส่วนนักวิเคราะห์หลายคนมองว่า เรื่องนี้ไม่น่ามีผลต่อรัฐที่เป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน แต่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจของรัฐที่เป็นสวิงสเตท.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES