เว็บไซต์ ctwant เปิดเผยถึงเรื่องราวของหนุ่มจีนคนหนึ่งที่ตับหวิดพัง แต่ไม่ใช่เพราะดื่มแอลกอฮอล์ สาเหตุที่เขาป่วยหนัก เนื่องจากชอบดื่มเครื่องดื่มชูกำลังเป็นประจำทุกวัน ซึ่งแพทย์เผยว่าเครื่องดื่มชนิดนี้ก็ทำให้ตับถูกทำลายอย่างรุนแรงเช่นเดียวกัน

ดร.เจี่ย เว่ย รองผู้อำนวยการและแพทย์ประจำแผนกฉุกเฉิน โรงพยาบาลเหลียนซิน ประเทศจีน เผยถึงเคสของชายชาวจีนคนหนึ่งที่มีอาการอ่อนล้าอย่างต่อเนื่อง หลังตรวจร่างกายพบว่า เขาป่วยเป็นโรคตับอักเสบเฉียบพลันและดีซ่าน ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รับประทานยาอะไรเป็นประจำ รวมทั้งไม่ได้เป็นไวรัสตับอักเสบบีหรือซีด้วย และที่สำคัญที่สุดก็คือ ชายคนนี้ไม่ได้ดื่มเหล้าเป็นประจำ จึงทำให้แพทย์สงสัยมากว่า สาเหตุที่เขาป่วยหนัก เพราะอะไรกันแน่

หลังซักประวัติคนไข้อย่างจริงจัง คุณหมอก็ทราบสาเหตุจนได้ เนื่องจากคนไข้ทำงานก่อสร้าง จึงต้องดื่มเครื่องดื่มชูกำลังเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้รู้สึกสดชื่นและมีแรงในการทำงาน ตอนแรกก็ดื่มแค่วันละขวด แต่ระยะหลังขวดเดียวไม่พอ จึงดื่มวันละ 2 ขวดเพื่อให้ร่างกายตื่นตัว ซึ่งเขาดื่มแบบนี้มา 20 ปีแล้ว โดยที่ไม่รู้เลยว่า เครื่องดื่มชูกำลังทื่เขาดื่มทุกวัน วันละ 2 ขวด มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ด้วย ทำให้ตับของเขาถูกทำลาย

ดร.เจี่ย เว่ย อธิบายเพิ่มเติมว่า หลายคนเข้าใจผิดว่าเครื่องดื่มชูกำลังไม่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ แต่จริง ๆ แล้วมีเครื่องดื่มชูกำลังบางชนิดที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ 8-10% ซึ่งสูงกว่าเบียร์เสียอีก ทำให้ตับต้องทำงานอย่างหนัก และเมื่อดื่มเป็นประจำระยะเวลายาวนานถึง 20 ปี ก็ทำให้ตับรับไม่ไหวในท้ายที่สุด เพราะฉะนั้น หากใครคิดจะดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง ให้ดูที่ฉลากข้างขวดด้วยว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง?

ที่มา : ctwant
ภาพ : Mohamed Hassan / Pixabay