ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ ส่วนกลาง ติดตามปัญหาผลกระทบจากโครงการพัฒนาเมืองกาฬสินธุ์ ป้องกันปัญหาน้ำท่วม 8 โครงการ งบประมาณ 545 ล้านบาท ของ กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ถูก 2 บริษัทประกอบด้วย หจก.เฮงนำกิจ-หจก.ประชาพัฒน์ ที่ชาวบ้านให้สมญานามว่า 2 รับเหมาขาใหญ่ หรือโครงการ 7 ชั่วโคตร เพราะเป็นเครือข่ายเดียวกันและมีแบ๊กการเมืองระดับประเทศ เพราะมีเส้นสายโยงใยใหญ่โตในกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ที่ชัดเจนว่า แม้จะถูกกรมโยธาฯ ยกเลิก 6 โครง คงเหลืออยู่ 2 โครงการ ใน 6 โครงการ กรมบัญชีกลางฯ ก็ยังไม่มีการแจ้งเวียนเป็นผู้รับจ้างทิ้งงาน เหมือนกับมีการประกาศให้รายอื่นเป็นผู้ทิ้งงาน ที่จะหมดสิทธิในการประมูลงานของรัฐในทุกองค์กร

ความเคลือบแคลงสงสัยทำให้เครือข่ายภาคประชาสัมคม ป.ป.ท.เขต 4 ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์-ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ ยื่นหนังสือต่อ รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล ประธาน กมธ.ป.ป.ช. สภา ให้ดำเนินการตรวจสอบปัญหา อีกทั้ง สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ส่ง นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 12 ประธานกรรม กธจ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่สอดส่องปัญหาทั้งหมด อีกทั้งทางจังหวัดก็ได้นำเครื่องจักรดำเนินการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นให้กับประชาชน แต่ในด้านการเอาผิดเพื่อทวงคืนงบประมาณแผ่นดินยังไม่มีความชัดเจน ชาวบ้านต้องการให้ส่วนที่เกี่ยวข้องออกมาปกป้องเงินภาษีของประชาชน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ส่วนกลาง แจ้งว่า นายชาญยุทธ โคตะนนท์ ประธานเครือข่ายภาคประชาสังคม ป.ป.ท.เขต 4 ประจำ จ.กาฬสินธุ์ และที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการ คณะธรรมาภิบาล จ.กาฬสินธุ์ (กธจ.) ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ เกี่ยวกับการการติดตามปัญหาโครงการ 7 ชั่วโคตร ว่า ปัญหาผลกระทบทั้ง 8 โครงการ งบประมาณ 545 ล้านบาท ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการนี้เกิดปัญหาแตกต่างกันไป ภายในอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เขตเทศบาลจะเป็นปัญหาเขตก่อสร้าง หลุมขนาดใหญ่ บล็อกคอนกรีต ทำให้ประชาชนได้รับภัยอันตราย ส่วนบริเวณด้านนอกอีก 7 โครงการ จะเป็นพื้นที่ริมตลิ่งลำน้ำปาว ลำน้ำพาน แม่น้ำชี หวาดกลัวในช่วงฤดูน้ำหลาก ที่มีรายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยาทุกวันว่า ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ “ลานีญา” ที่จะทำให้เกิดฝนตก ในปีนี้หากฝนมาก เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ตามจุดก่อสร้างทิ้งงานก็จะถูกน้ำท่วมไปทั้งหมด ส่วนบริเวณจุดก่อสร้างสิ่งที่ก่อสร้างเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นเสาเข็ม ก้อนหิน ก็จะละลายไปกับสายน้ำ การตรวจสอบจึงเน้นไปที่การเอาผิดกับผู้รับเหมาทิ้งงาน เพื่อไม่ให้ไปสร้างปัญหาให้กับหน่วยงานอื่น

“ตนยังคงเฝ้าติดตามการทำงานของหน่วยงานที่ตรวจสอบ ว่าจะเอาจริงเอาจังหรือไม่ คนกาฬสินธุ์เสียโอกาสในการพัฒนารวมถึงเสียดายงบประมาณแผ่นดิน ใน 8 โครงการนี้ รวม 545 ล้านบาท กรมโยธาฯ ให้เบิกไปรวมกว่า 250 ล้านบาท ดังนั้นความชัดเจนที่ให้ข่าวมาว่า กรมโยธาฯ จะทำการริบเงินประกันสัญญา หรือเรียกเงิน 15% ที่เป็นเงินแอดวานซ์คืน ตรงนี้ได้ทำหรือยัง และยังรวมไปถึงการเรียกค่าปรับคืนทั้งหมด เพราะนี่คือความชอบธรรมและเป็นกระบวนการยุติธรรมในสังคมที่เมื่อมีการทิ้งงานก็ต้องรับผิดชอบ แต่ทราบว่าจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนในการติดตามเอาผิดแต่อย่างใด โดยเฉพาะการที่กรมโยธาฯ จะส่งคณะกรรมการสอบสวนฯ เข้ามาประเมินความเสียหายและดำเนินการเอาผิดตามขั้นตอน”

นายชาญยุทธ กล่าวว่า การติดตามในส่วน ธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ โดย น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 12 ประธานกรรม กธจ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมานั้น ทราบว่า ผู้ตรวจราชการฯ ได้สรุปปัญหาพร้อมส่งรายงานผลการสอดส่อง โครงการ 7 ชั่วโคตร ไปยังองค์กรอิสระ ประกอบด้วย กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) โดย กธจ.กาฬสินธุ์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล ได้ออกหนังสือที่ นร (กธกส) 0100.12/ว 4762 วันที่ 31 พ.ค. 67 เพื่อให้ 4 องค์กรหลัก ดำเนินการสะสางปัญหานี้ ตามอำนาจ หน้าที่และตามความเหมาะสม และขณะนี้ กรมโยธาฯ ได้ทำหนังสือถึง นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์ กรณีการบอกเลิกสัญญา 7 ชั่วโคตร ไปแล้ว 6 โครงการ คงเหลืออีก 2 โครงการ แต่สิ่งที่ทางผู้ตรวจราชการสำนักนายกฯ เขต 12 ย้ำก็คือต้องการให้ กรมโยธาฯ เร่งรัดไปยังกรมบัญชีกลางในการแจ้งยกเลิกเป็นผู้รับเหมาทิ้งงานตามระเบียบพัสดุปี 2560 เพื่อยับยั้งความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับหน่วยงานอื่น

รายงานแจ้งว่า สำหรับปัญหาก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร เครือข่ายภาคประชาสังคม-ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ และชาวกาฬสินธุ์ ยังคงติดตามผลการแก้ไขในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างที่เชื่อว่าคงต้องใช้เวลาในการหาผู้รับจ้างรายใหม่ อีกทั้งในการดำเนินการเอาผิดกับ 2 หจก.ขาใหญ่ทิ้งงาน ว่าหน่วยงานของรัฐจะมีปัญญาเอาผิดขาใหญ่ได้จริงหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้ยังมีกระแสหลังถูกเปิดโปงว่ายิ่งเป็นข่าวยิ่งดัง ผู้ใหญ่ยิ่งเมตตา จะได้รับงานอีกเยอะ ที่คงจะจริงเพราะผลจากการที่ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ไม่ประกาศเป็นผู้รับเหมาทิ้งงานเหมือนกับรายอื่นๆ ที่เร่งดำเนินการนั้น ก็ทำให้ หจก.ที่มีปัญหาที่ถูกหน่วยงานนั้นๆ ประกาศทิ้งงาน ก็ยังไปเข้าประมูลงานกับหน่วยงานอื่นได้อีก โดยเฉพาะล่าสุดเกิดขึ้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เป็นงานกรมทางหลวงฯ ก่อสร้างและบูรณะถนน 2 สาย งบประมาณ 34 ล้านบาท ทำให้ชาวบ้านหวาดผวาไปถึงอนาคตว่าหากเป็นกลุ่มเครือข่าย 7 ชั่วโคตร ในอนาคตอาจจะมี 7 ชั่วโคตรภาค 2 ก็ได้