สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ว่า ภายหลังการนับคะแนนแล้ว 99.85% จากการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า พรรคเอเอ็นซีของประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซา ผู้นำแอฟริกาใต้ ได้รับคะแนนเสียงแค่ 40% เท่านั้น ซึ่งลดลงอย่างน่าตกตะลึง จากเดิมที่ 57.5% ในปี 2562

ผลการเลือกตั้งดังกล่าวถือเป็นจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์สำหรับแอฟริกาใต้ เนื่องจากพรรคเอเอ็นซี ครองเสียงข้างมากอย่างเด็ดขาดมาตั้งแต่ปี 2537 หรือนับตั้งแต่สิ้นสุดยุคการเหยียดผิว

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นหมายความว่า พรรคเอเอ็นซีต้องเจรจาการจัดตั้งรัฐบาลผสม หรืออย่างน้อยต้องโน้มน้าวพรรคการเมืองอื่น ให้สนับสนุนรามาโฟซาในรัฐสภา เพื่อทำให้เขาสามารถจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งต้องพึ่งพากลุ่มอื่น ๆ ในการผ่านงบประมาณและกฎหมายต่าง ๆ

“เราได้พูดคุยกับทุกคนตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง” นางนอมวูลา โมคอนยาเน รองเลขาธิการพรรคเอเอ็นซี กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะผู้ตัดสินใจของพรรค จะประชุมเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติของพรรค หลังมีการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม พรรคการเมืองบางพรรคตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง และกล่าวหาว่า เกิดความคลาดเคลื่อนในการนับคะแนนเสียง รวมทั้งคัดค้านการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ และเตือนถึง “ปัญหาร้ายแรง” แม้พวกเขาไม่ได้ระบุรายละเอียด หรือหลักฐานสนับสนุนใด ๆ ก็ตาม

ขณะที่ นายโมโซโท โมเอปยา ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งอิสระ (ไออีซี) กล่าวว่า ทางคณะกรรมการจะพิจารณาข้อมูลที่มีอยู่อย่างละเอียดถี่ถ้วน และสั่งให้มีการนับคะแนนใหม่ใน 24 กรณี พร้อมกับยืนยันว่า ไออีซีจะดำเนินการโดยปราศจากความกลัว ความลำเอียง และอคติ.

เครดิตภาพ : AFP