จากกรณีความคืบหน้าคดีฆาตกรรมนายไพศาล ทองอ่อน อายุ 54 ปี หนุ่มใหญ่ หมกศพในห้องพักคอนโดฯ ย่านงามวงศ์วาน ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัว นายภูริณัฐ กาญจนบรรยงค์ หรือโฟโต้ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์รายนี้ได้ ในบ้านพักดังหนึ่งในอำเภอเมืองชุมพร โดยถูกแจ้งดำเนินคดีใน 3 ข้อหา คือฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหนะ และพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่สภ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี นายพิสิษฐ์ ชุติพรพงษ์ชัย ทนายความของนายภูริณัฐ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหา ได้เดินทางเข้าพบพ.ต.ต.ฐิติปกรณ์ คุ้มปานอินทร์ สว.(สอบสวน)สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อร่วมเข้าสอบปากคำ พร้อมกับนายภูริณัฐ ผู้ต้องหา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนนทบุรี ได้ทำการตรวจร่องรอยพยานหลักฐานตามลำตัวของผู้ต้องหา และมือทั้ง 2 ข้าง

ขณะที่ตำรวจพานายภูริณัฐเข้าห้องน้ำ นายภูริณัฐ ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนสั้นๆว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนแรกรู้สึกตกใจเหมือนกัน แต่ตอนนี้ตนเสียใจกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นใครฝ่ายไหนก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ตอนนี้อยากขอโทษผู้เสียชีวิต ญาติผู้เสียชีวิต และคนรอบตัวที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แย่ๆแบบนี้

นายพิสิษฐ์ ทนายความ กล่าวว่า  ตนในฐานะทนายความของผู้ต้องหา อย่างแรกเลยต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่ต้องเจอเรื่องแบบนี้ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ถ้าเกิดขึ้นแล้วต้องว่าไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ตอนนี้ในการสอบสวนยังไม่เสร็จ แต่ทราบพฤติกรรมว่าน้องเป็นคนยอมรับที่เป็นคนฆ่า ลงมือทำร้ายผู้ตายให้เสียชีวิต

ส่วนเรื่องมูลเหตุพฤติกรรมภายในห้องยังเป็นรายละเอียดอยู่ในสำนวน และแรงจูงใจยังอยู่ในสำนวนเช่นกัน ทางผู้ต้องหากระทำความผิดแล้ว ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง เรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเขาคนรุ่นใหม่อยากประกอบธุรกิจด้วยตัวเอง ไม่อยากเป็นลูกจ้าง แต่เมื่อทำธุรกิจมาเจอปัญหาเพราะวุฒิภาวะยังมีไม่มากพอ ประสบการณ์ชีวิตไม่มี  ยิ่งแก้ปัญหายิ่งยุ่ง ทำให้เกิดปัญหาและความรุนแรง ไม่ปรึกษาครอบครัว ไม่ปรึกษาคนอื่น ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ติดด้วยตัวเองไม่ยอมพูดหรือบอกใคร

นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า ตนจึงอยากฝากถึงคนที่อยากทำธุรกิจให้ดูเคสนี้เป็นบทเรียน จะต้องคิดให้เยอะๆ เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนเรื่องประกันตัวยังไม่ได้มีการยื่น เพราะจะต้องมีการคัดค้านการประกันตัวเพราะเป็นเคสที่รุนแรง และเป็นข่าว เรื่องการประกันตัวจะเป็นดุลพินิจของศาลก็จริง แต่การยื่นประกันอาจจะไม่เกิดประโยชน์กับน้อง การที่ให้น้องเข้าไปเรือนจำก่อนในระหว่างการสอบสวน อาจจะไม่ต้องเจอผลกระทบอะไรมาก จะทำให้เขาสงบลง ส่วนเรื่องที่รับสารภาพ น้องให้การกับตำรวจยอมรับว่าเป็นคนกระทำจริง เป็นเหตุของการกระทำคือมีเหตุทะเลาะกันมาก่อน และมีรายละเอียดอยู่

“พ่อโฟโต้”ยกมือไหว้ขอโทษญาติคนตาย เผยลูกชายสำนึก-ยอมรับผิดในสิ่งที่ทำแล้ว

ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้มีการเข้ามาตรวจบาดแผล เจอบาดแผลที่คอของน้อง และมีรอยช้ำ เกิดจากการถูกบีบคอ ยณะที่แผลตามแขนคาดว่าเกิดการแย่งมีดกัน  สำหรับมูลเหตุที่เกิดเรื่องเพราะเรื่องธุรกิจ ไม่เกี่ยวกับเรื่องความรัก ซึ่งเรื่องเงิน 5 ล้านบาท เป็นเงินที่ไม่เยอะสำหรับผู้ใหญ่ แต่สำหรับเขาเป็นเงินก้อนเดียวทั้งชีวิต โดยวันพรุ่งนี้ ( 2 มิ.ย.)ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายพิสิษฐ์ฝากขังต่อศาลจังหวัดนนทบุรีช่วงเช้า