จากกรณีเมื่อวันที่ 25 พ.ค.67 ที่ผ่านมา น.ส.แวว (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี พนักงานช่วยการพยาบาล เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ฐิติปกรณ์ คุ้มปานอินทร์ สว. (สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อ ให้ดำเนินคดีกับแม่ค้าขายมะนาวในตลาดสดแห่งหนึ่งย่านเมืองนนทบุรี หลังถูกทำร้ายร่างกาย ด่าทอด้วยคำหยาบคาย และขอเงินทอน 450 บาทคืน โดยกล่าวหาว่า น.ส.แวว ไม่จ่ายเงินค่ามะนาว เป็นเงิน 50 บาท ขณะ น.ส.แวว ผู้เสียหายเอง ยืนยันว่าให้แบงค์ 500 บาทไปแล้วแม่ค้าเองก็ทอนเป็นเงินมาให้ 450 บาท แต่มายืนยันว่าไม่มีแบงค์ 500 บาทในตัวได้อย่างไร จนกระทั่งมาพบว่าที่แท้แบงค์ 500 บาท หล่นอยู่ใต้รถเข็นขายมะนาวของแม่ค้าเอง หลังเกิดเหตุ น.ส.แววได้รับความเสียหาย ถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บที่ถูกแม่ค้าคนนี้ทำร้ายกลางตลาดยืนยันจะเอาเรื่องดำเนินคดีจนถึงที่สุด

น.ส.แวว ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนว่า วันเกิดเหตุช่วงเวลา 13.00 น. ตนได้แวะซื้อของในตลาดสดดังกล่าวและได้ไปเลือกซื้อมะนาวที่ร้านของคู่กรณี ในราคาถาดละ 20 บาท 3 ถาด 50 บาท พร้อมกับจ่ายเงินเป็นแบงก์ 500 บาทให้ไป ซึ่งทางแม่ค้าได้ทอนเงินกลับมาให้ตน 450 บาท พอรับเงินทอนมาแล้ว ตนจึงเดินไปเลือกซื้อของต่อที่ร้านใกล้กัน ระหว่างที่ตนกำลังเลือกซื้อของอยู่นั้น ปรากฏว่าแม่ค้าขายมะนาวคนนี้ได้เข้ามาจิกหัวกระชากเสื้อที่ตนสวมใส่ ก่อนจะระดมตบหน้าตนหลายครั้ง พร้อมกับด่าทอและกล่าวหาว่าตนเป็นคนขี้โกง ไปซื้อของเขามาแล้วไม่จ่ายเงิน โดยแม่ค้าขายมะนาวพยายามจะทวงเงินทอนคืนจากตนด้วยตลอดเวลา

ตอนนั้นตนพยายามชี้แจงกับแม่ค้าขายมะนาวว่ามาตบตนเรื่องอะไร ตนได้ยื่นแบงก์ 500 บาทจ่ายค่ามะนาวให้ไปแล้ว ถ้าตนไม่ยื่นเงินให้ไปก่อนแล้วแม่ค้าจะทอนเงินทอน 450 บาทมาให้ตนได้อย่างไร แต่แม่ค้าขายมะนาวก็ไม่เชื่อตนตบหน้าด่าทอตน พร้อมกับพูดทวงเงินทอนย้ำๆอยู่แบบนั้น ก่อนจะมีคนเข้ามาห้ามปราม ตนถูกทำร้ายร่างกายจนอับอายไปทั้งตลาดแล้ว จึงต้องการดำเนินคดีกับแม่ค้าคนนี้ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งตัวตนไปตรวจบาดแผลที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อนำผลตรวจมาใช้ในการพิจารณาแจ้งข้อหากับแม่ค้ามะนาวรายนี้

ล่าสุด เมื่อเวลา 17.00 น วันที่ 1 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่บริเวณตลาดสดดังกล่าว พบป้าไก่ อายุ 64 ปี แม่ค้ารถเข็นขายลูกมะนาวสด เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตา ว่า ตนยอมรับว่า ในวันเกิดเหตุตนพักผ่อนน้อยเพราะนอนดึกตื่นเช้าขายของทุกวัน ตนเข้าใจผิดคิดว่าคู่กรณีไม่ได้จ่ายแบงค์ 500 บาทให้ เพราะตนหาไม่เจอไม่มีแบงค์ดังกล่าวอยู่ในกระเป๋า จึงไปตามหาและขอเงินทอน 450 บาท เพราะตนฐานะยากจน ต้องเลี้ยงสุนัขถึง 5 ตัว ยอมรับว่าตนทำร้าย กระชากคอเสื้อเขาและตบหน้าไป 1 ทีไม่ได้จิกหัวหรือทำร้ายหลายครั้ง ถ้าหากคู่กรณีจะดำเนินคดี หรือให้จ่ายเงินค่าเยียวยาค่าปรับ ตนคงไม่มีแน่คงต้องยอมติดคุก แต่ถ้าติดคุกก็อยากฝากผู้ใจบุญทุกคนช่วยเอาสุนัขที่เลี้ยงไว้ 5 ตัว ไปดูแลต่อด้วย ทั้งนี้ อยากขอความเห็นใจให้คู่กรณียกโทษอย่าเอาเรื่องราวตนเลย

ขณะที่ น.ส.แวว บอกว่า ตนยังรู้สึกปวดหัวและเจ็บตามร่างกาย แต่ขอยืนยันว่าแม่ค้าคนนี้ไม่ได้ตบตนเองแค่ครั้งเดียว อย่างที่เขาพูด เขาตบตีทำร้ายตนหลายครั้ง และเรื่องที่เกิดขึ้น ตนยืนยันขอดำเนินคดี ตามกฎหมายอย่างแน่นอน ระหว่างนี้อยู่ระหว่างรอผลแพทย์เพื่อนำไปมอบให้กับพนักงานสอบสวนในการแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับแม่ค้ารายนี้ต่อไป.