เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คณะทำงานฯ ได้วางแนวทางการดำเนินคดีอย่างเข้มงวดในกรณีขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งของตนเองและผู้อื่น และขับเคลื่อนงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย รวมทั้งการโพสต์ชักชวน เชิญชวนบนสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ และการรวมตัวกันบนท้องถนน ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน

ล่าสุดมีกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจงานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดี-รังสิต/ทางพิเศษ ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า มีการเผยแพร่ในโลกโซเชียล เป็นคลิปคนขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์พร้อมคนซ้อนท้ายในลักษณะการยกล้อ ซึ่งเป็นการขับรถในลักษณะประมาทหวาดเสียวและไม่คำนึงถึงความปลอดภัย บนถนนวิภาวดี ซึ่งเป็นถนนสาธารณะเส้นหลักในการเข้าออกกรุงเทพมหานคร ที่มีรถปริมาณมากตลอดเวลา อาจจะเกิดอันตรายแก่ผู้ร่วมใช้ทางคนอื่นได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่รับผิดชอบ พบว่าหลังจากเลิกรวมกลุ่มจักรยานยนต์ กลุ่มนี้ได้ขับขี่เข้าถนนวิภาวดี บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ซึ่งมีผู้ใช้ทางจำนวนมาก จากนั้นได้มีรถจักรยานยนต์จำนวน 3 คัน ขับขี่ในลักษณะยกล้อ ส่วนบางคันที่ไม่ได้ขับขี่ยกล้อ จะทำหน้าที่ถ่ายคลิปวิดีโอรถจักรยานยนต์คันที่ยกล้อ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจงานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดี-รังสิต/ทางพิเศษ ได้ออกหมายเรียกผู้ขับขี่ ผู้ซ้อนท้าย พร้อมรถจักรยานยนต์ในวันเกิดเหตุของกลุ่มรถจักรยานยนต์ดังกล่าว มาแจ้งข้อกล่าวหาและนำตัวส่งฟ้องศาลแขวงพระนครเหนือ โดยผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ในลักษณะยกล้อ 3 คน คือ นายธีระพงษ์ นายทศพร และนายวันชัย มีความผิดฐาน “ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน, ขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น” ศาลแขวงพระนครเหนือพิพากษาจำคุก 1 เดือน 15 วัน ปรับคนละ 3,000 บาท โทษจำรอ 2 ปี คุมประพฤติ 1 ปี รายงานตัว 4 ครั้ง พักใบขับขี่ 6 เดือน บริการสังคม 24 ชั่วโมง

ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คน คือ นางสาวสุภาภรณ์ นายมนตรี และนางสาวเจนจิรา มีความผิดฐาน “สนับสนุน ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น” ศาลแขวงพระนครเหนือพิพากษาจำคุก 1 เดือน ปรับคนละ 2,000 บาท โทษจำรอ 2 ปี คุมประพฤติ 1 ปี รายงานตัว 4 ครั้ง บริการสังคม 24 ชั่วโมง พร้อมริบรถของกลางรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ จำนวน 4 คัน รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท

พล.ต.ท.สำราญ กล่าวอีกว่า การขับขี่ยกล้อ ประมาทหวาดเสียว โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งของตนเองและผู้อื่น ในลักษณะดังกรณีข้างต้น เป็นอันตรายและสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นเป็นอย่างมาก และศาลมีแนวทางคำพิพากษาลงโทษหนัก ทั้งผู้ขับขี่และเจ้าของรถ ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสเหตุได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.