เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยความคืบหน้าภายหลังหลังตำรวจอินโดนีเซียจับกุมตัว นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด ว่า เบื้องต้นจะไม่นำตัว แป้งนาโหนด กลับไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช เพราะต้องคำนึงถึงความมั่นคงและปลอดภัย ส่วนจะเข้าไปขังเรือนจำใดก็จะต้องเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง ซึ่งปัจจุบันมี 5 แห่งในประเทศ อาจจะต้องพิจารณาเรือนจำใดเรือนจำหนึ่ง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะเป็นเรือนจำในพื้นที่ภาคใต้หรือไม่ นายสหการณ์ บอกว่า เรือนจำที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ขณะนี้ยังไม่เรียบร้อยกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยปกติแล้วนักโทษที่หลบหนี นอกจากจะถูกดำเนินคดีทางอาญาแล้ว ยังต้องถูกดำเนินการตามระเบียบวินัยของเรือนจำ คือลดประโยชน์หรือจำกัดอิสรภาพมากกว่านักโทษคนอื่น เช่นจำกัดการเยี่ยมญาติ สำหรับการต่อสู้คดีของ แป้ง นาโหนด หลังจากนี้ราชทัณฑ์ไม่สามารถตัดโอกาสตรงนี้ของตัวผู้ต้องขังได้หรือแยกคุมขังเดี่ยว เนื่องจากต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวนักโทษ และนักโทษไม่ก่อเหตุรายอื่น

ส่วนกรณีของ แป้ง นาโหนด จะซ้ำรอยของพ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ที่มีการช่วยเหลือจากบุคคลภายนอกให้หลบหนีออกจากศาล นายสหการณ์ บอกว่า หลังจากนี้จะมีการนำตัว แป้ง นาโหนดไปอยู่ในเรือนจำที่มีระบบความปลอดภัยสูง โดยปกติแล้วนักโทษที่มีคดีอุกฉกรรจ์เราจะระมัดระวังเป็นอย่างมาก ฉะนั้นการอยู่เรือนจำ 100% จะไม่สามารถหลบหนีได้

ส่วนหากต้องนำตัว แป้ง นาโหนด ขึ้นศาลจะต้องมีมาตรการอย่างไรนั้นเพื่อป้องกันการแหกคุก นายสหการณ์ บอกว่า มี 2 มาตรการ อาจใช้ ระบบ Video Conference และหากจำเป็นต้องนำตัวไปศาลอาจเพิ่มมาตรการคุมเข้ม เข้มงวด และมีประสิทธิภาพมากที่สุด

นายสหการณ์ บอกต่อว่า หากหลังจากนี้ แป้ง นาโหนด เจ็บป่วย ไม่ถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อ ซึ่งปกติแล้วในเรือนจำมีสถานพยาบาลขั้นปฐมภูมิ และมีแพทย์ทำการตรวจรักษาภายในเรือนจำได้ และขณะนี้ยังไม่รับรายงานว่า แป้ง นาโหนดป่วย แต่หากนำตัวกลับมาแล้วมีอาการป่วยจะต้องนำตัวไปรักษานอกเรือนจำหรือไม่ นายสหการณ์ ระบุว่า ตั้งแต่แป้ง นาโหนด หลบหนีออกไป ขณะนั้นอ้างเหตุรักษาฟัน ซึ่งหมอนัดไปที่โรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช นี่คือเหตุที่นำไปสู่การหลบหนี และก่อนหน้านี้ แป้ง นาโหนดยังอ้างว่าตกจากที่สูงจนทำให้เป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทจึงต้องออกไปรักษาตัวข้างนอกอย่างต่อเนื่อง ยอมรับว่าเป็นจุดที่ต้องระมัดระวังมากขึ้น หากไม่ถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อก็ไม่จำเป็นต้องไปรักษาโรงพยาบาลข้างนอก