ฮัลโหล..มาแล้วค่า “นูน่าเมี้ยน” มาพบกับแฟนๆ “บันเทิงเดลินิวส์” ที่น่ารักทุกคนแล้วนะคะ และแน่นอนมาเจอกับนูน่าแบบนี้ก็ต้องมาพร้อมคอมลัมน์ “SeoulStation” พื้นที่ ที่จะพามาอัปเดตข่าวสารของวงการบันเทิง K-Pop นักแสดง ไอดอลเกาหลี ในรอบสัปดาห์แบบพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟกันเป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยสัปดาห์นี้บอกเลยว่าพิเศษมากๆ สำหรับ “ชายนีเวิล์ด” (Shinee World หรือShawol อ่านว่า ชยาวอล) ชื่อแฟนคลับของวงบอยแบนด์ที่ครองใจผู้คนมากที่สุด “SHINee” ประกอบด้วยสมาชิกดั้งเดิมจำนวน 5 คนคือ “อนยู” (Onew), “คีย์” (Key), “แทมิน” (Taemin), “มินโฮ” (Minho) และ “จงฮยอน” (Jonghyun) ซึ่งสมาชิกทั้ง 5 คนของวง SHINee ถูกขนานนามให้เป็น “เจ้าชายแห่งวงการเคป๊อป” อีกด้วย

โดยในปีนี้ก็จะเป็นการครบรอบ16 ปีของการเดบิวต์วง ซึ่งการเฉลิมฉลองในปีนี้พวกเขาได้ประกาศอังกอร์คอนเสิร์ตแบบเต็มวงในชื่อ “SHINee WORLD VI [PERFECT ILLUMINATION] : SHINee’s BACK” โดยมีอนยูกลับมาร่วมแสดงโชว์ในครั้งนี้ด้วย หลังจากเจ้าตัวหยุดพักกิจกรรมเนื่องด้วยปัญหาด้านสุขภาพไปก่อนหน้านี้ บอกได้เลยว่าภายในคอนเสิร์ตครั้งนี้จะตลบอบอวลไปด้วยความรักและความอบอุ่น ซึ่งในคอนเสิร์ตครั้งนี้แฟน ๆ กว่า 30,000 คน ได้เข้าร่วมไปเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำ SHINee กันอย่างมากมาย รวมถึงแฟน ๆ ต่างประเทศที่รับชมผ่าน BeyondLive พวกเขาได้ตอบแทนความรักของแฟนคลับด้วยการแสดงที่จัดเต็มพิเศษ ทั้ง เวทีที่เคลื่อนไหวได้ การแสดงกลางอากาศ และการแสดงแท่งไฟที่ซิงโครไนซ์กัน ก่อนที่จะปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วยการขอบคุณแฟน ๆ ที่ให้การสนับสนุนมานานหลายปี “ขอบคุณที่พาพวกเรามาถึงจุดที่เราอยู่ตอนนี้ เราอยู่ตรงนี้เพราะคุณอยู่ที่นั่น เราจะตอบแทนพวกคุณสำหรับการสนับสนุนของทุกคนอย่างแน่นอน”

แม้ว่าพวกเขาจะโลดแล่นในวงการเคป๊อปมานานถึง 16 ปีเต็มแล้วก็ตาม แต่แฟนคลับส่วนใหญ่จากทั่วโลก ก็ยังคงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ผลงานของพวกเขาตลอด 16 ปี ไม่เคยทำให้พวกเขารู้สึกผิดหวังเลยสักครั้ง” ซึ่งหลังจากวันที่ 25 พฤษภาคม 2008 ที่พวกเขา “ไอดอลหนุ่มวัยเลขหลักสิบรุ่นน้อง” ได้ปรากฏตัวครั้งแรกอย่างเป็นทางการในรายการ “อินกิกาโย” ของช่อง “SBS” จนถึงวันนี้ที่ขึ้นแท่นเป็น “ไอดอลหนุ่มรุ่นพี่วัยเลขหลักสามสิบ” บอกเลยเส้นทางและผลงานของพวกเขา “เปล่งประกายและเป็นที่ประจักษ์” ผ่านงานดนตรีของพวกเขาที่พยายามท้าทายผู้ฟังทั่วโลก ตัวพวกเขาเอง รวมถึงวงการเคป๊อปมาโดยตลอด

SHINee” เป็นบอยแบนด์เกาหลีใต้ สังกัด SM Entertainment เดิมเปิดตัวในปี ค.ศ. 2008 ด้วยเพลง Replay” ที่วางแผงครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 โดยทางค่ายได้มีแนวคิดที่ต้องการให้ SHINee กลายเป็นวงที่นำเทรนด์ หรือกระแสนิยมในช่วงนั้น ๆ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ดนตรี แฟชั่น การเต้น และอื่น ๆ ซึ่งพวกเขาเดบิวต์หรือปรากฏตัวครั้งแรกภายในปี ค.ศ. 2008 ด้วยอีพีแรกที่มีชื่อว่า Replay” ที่หลายฝ่ายลงความเห็นกันว่าเป็น “หนึ่งในเพลงเดบิวต์ที่ดีที่สุด” ของวงการเคป๊อป และมีท่อนฮุคอย่าง 누난 너무 예뻐 (นูนัน นอมู เยปอ)” เป็นทำนองที่ติดหู และผสมผสานกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ จนทำให้ผู้ฟังเกิดความประทับใจได้ไม่ยาก

นอกจากนี้ SHINee มีกระแสมากขึ้นจากการสร้างเทรนด์ฮิตในหมู่นักเรียน โดยสื่อทั้งหลายได้ขนานนามพวกเขาด้วยวลีที่ว่า Shinee Trend” (เทรนด์แบบ SHINee) โดยพวกเขาได้สร้างชื่อเสียงให้วง และทำให้เพลงเกาหลีเป็นที่รู้จักในวงกว้างได้อย่างมากมายด้วยผลงานเพลง Ring Ding Dong” และ Lucifer” โดยเพลง Ring Ding Dong ได้ขึ้นสู่อันดับต้น ๆ ในชาร์ตเพลงเกาหลีทั่วประเทศถึง 7 ชาร์ตด้วยกัน และตัวซิงเกิลนั้นก็ได้รับความนิยมอย่างมากมายไปทั่วทวีปเอเชีย ส่วนเพลง Lucifer ถูกเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลในสาขา Best Dance Performance” (การแสดงเวทีเต้นที่ดีที่สุด) ที่งาน Mnet Asian Music Awards 2010” ด้วยท่าเต้นที่ดึงดูดใจ และในปี 2012 ทางวงได้ปล่อยอัลบั้ม Sherlock” ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดอันดับที่ 5 ของปีโดยมียอดขายกว่า 180,000 ชุดในขณะนั้นเอง อีกทั้งพวกเขายังถูกจัดอันดับให้เป็นที่สุดของกลุ่มคนผู้มีชื่อเสียงในการจัดอันดับผู้ทรงอิทธิพลในเกาหลีโดยนิตยสาร “Forbes” ในปี 2014 และปี 2016

และเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ปี 2008 หลังจากการขึ้นแสดงโปรโมตในรายการเพลง “อินกิกาโย” SHINee ได้จัดแฟนมีตติ้งเล็ก ๆ ขึ้นเพื่อฉลองล่วงหน้าเนื่องในโอกาส “ครบรอบการเดบิวต์ครบ 100 วัน” และมีการประกาศชื่อกลุ่มแฟนคลับอย่างเป็นทางการของชายนี ซึ่งก็คือ “ชายนีเวิลด์” มีความหมายว่า “โลกของชายนีและแฟน ๆ ของพวกเขา” หลังจากนั้นเป็นต้นมา การใช้ชื่อ “ชายนีเวิลด์” เรียกแทนกลุ่มแฟนคลับของวงชายนีจึงได้แผร่หลายและเป็นที่รู้จักกันมาจนถึงปัจจุบันนี้

SHINee เป็นที่รู้จักกันในสไตล์แฟชั่นที่โดดเด่นของวง สไตล์ที่แปลกใหม่ของพวกเขาได้สร้างกระแสขึ้นภายในสังคมและกลุ่มเด็กนักเรียน ภาพลักษณ์ของวงใน “เสน่ห์แบบเด็กผู้ชาย” นั้น เป็นจุดสำคัญในการสร้างฐานแฟนคลับของชายนี และเมื่อปล่อยอัลบั้ม 2009, Year of Us ออกมา ภาพลักษณ์ของพวกเขาได้เติบโตมากยิ่งขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นเอง สไตล์ของวงก็ยังเน้นแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร อย่างเสมอต้นเสมอปลาย นอกจากการทำงานร่วมกับศิลปินและช่างภาพที่มีชื่อเสียงมากมายแล้ว ทางค่าย SM ก็ยังสรรหาเทคนิคหรือไอเดียใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญอย่างหลากหลาย เพื่อที่จะตกตะกอนสิ่งใหม่ ๆ ในการพัฒนาคอนเซปต์ของ SHINee อยู่เสมอ และนับตั้งแต่นั้นมา SHINee ก็ดูจะสร้างมาตรฐานใหม่ๆ ให้กับวงการผ่านผลงานเพลงอยู่ไม่เคยขาด ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การแต่งตัวด้วยเสื้อผ้า และทรงผมที่สะดุดตาวัยรุ่นจนต้องพากันแต่งตาม เทรนด์การทำคลิปวิดีโอแนว performance ที่เผยท่าเต้นแบบรวดเดียวจบ ให้แก่วงไอดอลรุ่นหลังจนมาถึงปัจจุบัน

ทางด้านผลงานการ “สร้างสรรค์งานดนตรี” สมาชิกแต่ละคนก็มีแนวทาง และความโดดเด่น ในแบบของตัวเองอย่างเห็นได้ชัดผ่านผลงานเดี่ยวของพวกเขา เริ่มจาก “แทมิน” ที่ได้เปิดตัวในฐานะศิลปินเดี่ยวเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ปี 2014 ด้วยการปล่อยมินิอัลบั้มชุดแรกที่มีชื่อว่า “Ace” พร้อมกับได้โชว์ให้เห็นทักษะการแสดงที่โดดเด่นและเสน่ห์ความเป็นศิลปินที่มีเอกลักษณ์ จนได้รับความรักมากมาย รวมถึงสมญานามต่าง ๆ ทั้ง ศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม และ ACE แห่งเคป๊อป ต่อด้วย “จงฮยอน” ที่มีความสามารถอันโดดเด่นด้านการแต่งและโปรดิวซ์เพลง ซึ่งเขาได้มีส่วนร่วมในการเขียนเนื้อร้องและทำนองเพลงมากมาย จงฮยอนนั้นได้ถูกยกย่องว่าเป็นโปรดิวเซอร์ผู้ซึ่งมีแนวเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ ผลงานของเขาถูกกล่าวชมในด้านของการเขียนและประพันธ์มากมายโดยสื่อและผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผลงานซึ่งเขาแต่งให้เป็นส่วนหนึ่งในอัลบั้มเดี่ยวของเขาเอง และนอกจากนี้เอง สำนักข่าว “Insight Korea” ก็ยังได้ยกให้ จงฮยอน เป็น 1 ใน 7 ของไอดอลที่ดู “เกิดมาเพื่อทำเพลง” โดยเฉพาะ

ด้าน “คีย์” นอกเหนือจากการทำงานในวงแล้ว คีย์ยังสร้างอาชีพในฐานะนักแสดง นักแสดงละครเพลง แฟชั่นไอคอน และพิธีกรอีกด้วย โดยเขาได้รับความนิยมในระดับโลกจากสีสันทางดนตรีที่มีเอกลักษณ์ และความสามารถทางเวทีการแสดงที่โดดเด่นผ่านผลงานอัลบั้มอย่าง “Bad Love” และ “Gasoline” ทั้งนี้ จากการที่เขาสนใจแฟชั่นเป็นอย่างมากจึงมีโอกาสได้ออกแบบชุดสำหรับการแสดงคอนเสิร์ตให้ทุกคนในวงด้วย ส่วนทางลีดเดอร์ “อนยู” ที่มาพร้อมกับน้ำเสียงอบอุ่นแต่ทรงพลังผ่านมินิอัลบั้มอย่าง “VOICE”, “DICE” และ “Circle” ที่พิสูจน์ความสามารถทางดนตรีของเขาอย่างชัด และ “มินโฮ” ที่ถึงแม้จะเป็นคนสุดท้ายของวงที่เพิ่งได้มีอัลบั้มเป็นของตัวเอง แต่เขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า นอกจากความสามารถด้านการแร็ปในสไตล์ที่โดดเด่นของเขาเองแล้ว เขายังแอบซ่อนเสียงร้องอันนุ่มละมุน ที่ฟังแล้วไม่สามารถปล่อยผ่านข้ามมันไปได้เลย

หากจะเปรียบหนุ่มๆ SHINee เป็นส่วนผสมทางด้านดนตรีของวงการเคป๊อบแล้วล่ะก็ ด้วยเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ “อนยู” ประกอบกับความสามารถของ “คีย์” ผนึกกับพลังอันไร้ขีดจำกัดของ “มินโฮ” และการสื่ออารมณ์ความรูสึกของ “แทมิน” รวมถึงที่ว่างของ “จงฮยอน” พอส่วนผสมทุกอย่างมารวมตัวกัน กลายเป็น “การแสดงที่ไม่มีเคป๊อปใดทำได้เท่านี้อีกแล้ว” วงที่เป็นทั้งไอดอล นักร้อง นักดนตรี เอ็นเตอร์เทนเนอร์ คนที่ทำสิ่งเหล่านี้ได้จนถึงตอนนี้ก็มีแค่พวกเขา และท้ายที่สุดประโยค “นู นัน นอ มู เย ปอ” มันก็คงดังกึกก้อง และชัดเจนอยู่ในหัวใจของเหล่า “ชายนีเวิลด์” ดั่งวันแรกที่พวกเขาเริ่มต้นร้องประโยคนี้ไปด้วยกัน และมันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง..


คอลัมน์ “SeoulStation”
โดย “นูน่าเมี้ยน”