เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กลุ่มข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 38 ค (2) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษา (สพป.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ทั่วประเทศ รวมตัวแต่งชุดดำ ประมาณ 50 คน เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อหารือถึงปัญหากรอบอัตรากำลังบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค (2) เนื่องจากขาดขวัญกำลังใจในการทำงานอย่างมาก โดยมีนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นตัวแทนรับเรื่อง

ทั้งนี้ สมาพันธ์บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค (2) สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เรียกร้องให้ศธ.ได้คงกรอบอัตรากำลังล่าสุด ตามประกาศกระทรวงฯ ไม่ยุบ 3 กลุ่มใหม่และจัดกรอบอัตรากำลังให้ 3 กลุ่มใหม่ จัดกรอบอัตรากำลังใหม่ 10 กลุ่ม ตามประกาศกระทรวงฯ  พร้อมเปิดเงื่อนไข ทุกคน ทุกตำแหน่ง มีความก้าวหน้า เติบโตได้ด้วยผลงานเฉพาะตัว ประเภทอำนวยการ ระดับอาวุโส ประเภทวิชาการ ชำนาญการพิเศษ และเชี่ยวชาญ นอกจากนี้ให้มีการระบุตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่ม และมีมาตรฐานตำแหน่ง ผู้อำนวยการกลุ่ม โดยจะโยงไปที่กฎ ก.ค.ศ. เป็นประเภทอำนวยการและมีสิทธิสอบสายบริหารได้

นอกจากนี้สมาพันธ์บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค (2) ยังต้องการให้แก้กฎ ก.ค.ศ. ปี 2560 ดังต่อไปนี้ ผู้อำนวยการกลุ่ม ผู้อำนวยการหน่วยตรวจสอบภายใน เป็นประเภทอำนวยการ กำหนดเงินวิชาชีพ (เงินประจำตำแหน่ง) ระดับชำนาญการ 3,500 บาท ระดับชำนาญการพิเศษ 5,600 บาท ระดับเชี่ยวชาญ 9,900 บาท และการแก้กฎหมายให้บุคลากรทางการศึกษา มีศักดิ์และสิทธิที่เสมอกัน ภายใต้ระบบบริหารงานบุคคล และระบบค่าตอบแทนเดียวกัน โดยกำหนดให้บุคลากรทางการศึกษา 38 ค (2) เป็นวิชาชีพควบคุมของคุรุสภา มีเงินประจำตำแหน่ง หรือเงินวิชาชีพ พร้อมแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ให้ตัดข้อความ “การดำรงตำแหน่ง และการให้ได้รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของตำแหน่ง บุคลากรทางการศึกษาตาม ค. (๒) ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎ ก.ค.ศ. โดยให้นำกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดตำแหน่ง และการให้ได้รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญมาใช้บังคับโดยอนุโลม”

ด้านนายสิริพงศ์ กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอที่กลุ่มข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 38 ค ได้มายื่นเรื่องร้องเรียนนั้น ขณะนี้สพฐ.ได้ทำแบบสำรวจว่าอยากจะให้มีการปรับปรุงแบบไหน ซึ่ง ศธ.พร้อมรับฟังและวางแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยจะมาดูในข้อระเบียบด้านกฎหมายว่าสามารถทำได้หรือไม่อย่างไร เพราะการปรับแก้ตามข้อร้องเรียนนั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กระทรวงการคลัง เป็นต้น ซึ่ง ศธ.จะพยายามแก้ไขทำให้อย่างดีที่สุด